มีเจ้าของธุรกิจ SME หลายคน เปลี่ยนบ้านเป็น Home Office หรือบางคนที่มีออฟฟิศ แต่เลือกที่จะทำงานที่บ้านแทน เนื่องจากปัญหาทางด้านการเดินทาง หรือ ความสะดวกสบาย ลดต้นทุนต่างๆ หลายคน ที่เลือกที่จะทำงานที่บ้าน เพราะปัจจุบันมีเครื่องไม้เครื่องมือ เทคโนโลยีที่ช่วยเอื้อการทำงาน นอกสถานที่ได้ เช่น เทคโนโลยี Cloud System(การจัดเก็บข้อมูลไว้บนระบบคลาวด์) ระบบ Web Service รวมถึงโมบายแอพต่างๆครับ ทำให้การทำงานที่บ้าน มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมากๆ

ถึงแม้ว้าเรามีเครื่องไม้เครื่องมือเทคโนโลยีทันสมัย แต่ทำไมเวลา อยู่ที่บ้าน งานที่เราว่าน่าจะทำได้ดีกลับทำไม่เสร็จ และเราก็มักจะพ่ายแพ้ไปกับสิ่งต่างๆที่ดึงดูดเราไม่ว่าจะเป็น งานบ้าน มุมพักผ่อน ซีรีย์ เตียงนอนนุ่มๆ โซฟาไว้เอนหลังสบายๆ เจ้าแมวน้อย ที่คอยมาเคล้าเคลีย หรือ เจ้าตูบที่เรียกเราให้ พาออกไปเดินเล่น ยังไม่รวมถึง ของกินสารพัดที่เราเก็บไว้ในตู้เย็น ทั้งหมดนี้มัน เย้ายวนใจเหลือเกิน รู้นะว่างานเร่งแต่ขอเอาตัวเข้าไปซุกในที่นอน หยิบขนมกรุบกรอบ พร้อมกับถูมือถือสักหน่อยดีกว่า งั้นวันนี้หนุนนำขอเอาวิธีการ มาช่วยจัดการให้การทำงานทีบ้าน ให้เป็นเรื่องเป็นไปได้ และทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพที่สุดกัน
01 จัดตารางเวลา หลายคนที่คิดว่าจะทำงานที่บ้าน แบบสบายๆตื่นนอนสาย และเริ่มนั่งทำงานไปเรื่อยๆ อาจจะเป็นวิธีที่ยากนิดนึงคนที่ทำได้ก็มีนะครับ แต่คนส่วนใหญ่มักจะทำได้ไม่นาน ยิ่งบางคนที่ชอบผลัดวันประกันพรุ่งด้วยแล้วบอกได้เลยว่าการจัดเวลาเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เราควรจะเริ่มจากมองหาเวลาที่เราสามารถทำงานโดยมีโฟกัสได้มาก ได้นานบางคนจัดเวลาทำงาน 8 โมงเช้าถึง 5โมงเย็น สำหรับบางคนอาจจะเริ่มตอนเจ็ดโมง ช่วงเวลาเที่ยงก็พักทานข้าวหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นก็ลุยต่อ เวลาที่ปิดคอมพิวเตอร์คือเวลาพักผ่อนและ ทำงานบ้านครับ ถ้าทำได้เราจะใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า ในบทความก่อนหน้าเรื่องการจัดตารางเวลาก็สามารถย้อนไปอ่านกันได้ครับ
02 เปลี่ยนชุดที่พร้อมจะทำงาน เทคนิคนี้หลายคนสงสัยว่าจำเป็นด้วยเหรอ วันนั้นไม่ได้จะต้องออกไปพบใครนั่งทำงานอยู่ที่บ้านนะ เทคนิคเล็กๆน้อยๆนี้เป็นการหลอกสมองของเราให้เตรียมพร้อมในการทำงานครับ การอาบน้ำ เปลี่ยนชุดที่ใส่ทำงาน แต่อาจจะไม่ต้องถึงขนาดใส่สูทหรือผูกเนคไทเต็มยศกันนะครับ แต่ใครจะทำเราก็ไม่ห้ามนะ สำหรับคุณผู้หญิงผมแนะนำให้แต่งหน้าทำผมเหมือนตอนไปทำงานปกติเลยครับ และทีสำคัญให้ใส่รองเท้าที่เอาไว้ทำงานครับ ถ้าทำกันได้การทำงานที่บ้านของเราครั้งนี้จะได้ประสิทธิภาพสูงมากๆ สมองจะเตรียมความพร้อมให้เราได้ลุยกันตลอดวันเลย
03 กำหนด Deadline ให้กับงานที่ทำ อันนี้เน้นโดยเฉพาะคนที่เป็นแบบผมคือมักจะทำงานแบบม้าตีนปลายตอนจะต้องส่งงาน เวลาเราทำงานในโปรเจ็คหนึ่งๆเรามักจะมี Deadline เสมอเพื่อให้งานได้เดินหน้า การทำงานอยู่ที่บ้านก็จำเป็นต้องกำหนดเพื่อให้เราได้เตือนตัวเอง โดยให้ทำงานที่สำคัญแต่ไม่เร่งด่วนก่อนเสมอ และการทำแบบนี้จะทำให้เราสามารถเรียงลำดับความสำคัญของงานแต่ละอย่างได้ ความท้าทายเล็กๆนี้จะทำให้งานเราสำเร็จและได้ผลลัพธ์ที่ดีครับ
04 กำหนด To do List และนำมันมาใส่ในตารางเวลา คนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคนเลิกใช้ To do list อย่างเดียวแล้ว พวกเขาเหล่านั้นมักจะ วางลำดับงานที่สำคัญเอาไว้ และนำมันมาใส่ในตารางเวลาในแต่ละวันกันไปเลยครับ เราสามารถแบ่งตารางเวลาของเราเป็นช่องๆ ช่องละ 1 ชั่วโมง เราก็ใส่สิ่งที่ต้องทำในรายชั่วโมง รายวันลงไป และควรจะวางแผนล่วงหน้าในแต่ละสัปดาห์ด้วยครับ การทำแบบนี้จะทำให้เราเข้าถึงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ นักธุรกิจร้อยล้านบางคน กำหนดเวลา1ชั่วโมง ตอบอีเมล์ตอนสี่โมงเย็นถึงห้าโมงเย็น เท่านั้นทำให้พวกเขาเอาเวลาไปใช้ทำอย่างอื่นได้ครับ
05 ห้ามเช็ค Facebook และโซเชียลมิเดียต่างๆ ในช่วงเวลาการทำงาน เชื่อมั้ยครับว่ากิจกรรมการเล่น Facebook ของเราผลาญเวลาและพลังงาน รวมถึงไอเดียของเราขนาดไหน เวลาเราอาจจะหายไปเป็นชั่วโมงในการถูมือก็ได้ครับ เพราะความเย้ายวน ของความอยากรู้ในตัวพวกเรานี้แหละ มันจะคอยกระตุ้นให้ สมาธิการนั่งทำงานที่บ้านของเราลดลงอย่างมาก พวกเราสามารถทำได้ง่ายๆครับ โดยเริ่มจากกดปุ่ม Logout ออกให้หมด เอามือถือไปชาร์ทลืมหรือ ปรับโหมดให้ไม่สามารถรับสายได้ ในช่วงที่เราต้องโฟกัสกับงานครับ
06 เบรคบ้างก็ได้ จากข้อ1-5 ดูแล้วว่าทำไมมันค่อนข้างทำได้ยากจัง จากงานวิจัยระบุว่าโดยเฉลี่ยคนเราจะสามารถนั่งทำงานแบบมีโฟกัสสุดๆได้ประมาณ 25 นาที หลังจากนั้นก็ควรจะให้สมองได้พักสักหน่อยครับ ผมมักจะเลือกเบรคสัก 15 นาที โดยการชงชาหรือพักดื่มน้ำ หลังจากทำงานแบบโฟกัสเป็นเวลา 45 นาที การทำแบบนี้จะทำให้เรามีจังหวะการทำงานแบบสม่ำเสมอครับ
07 จัดโต๊ะทำงาน ให้เป็นโต๊ะทำงาน การจัดโต๊ะที่รกๆให้โล่งเหมาะกับการทำงานนี้สำคัญมากๆ เราไม่จำเป็นต้องถึงขนาดมีห้องสำหรับทำงานแบบจริงจัง ขอให้มีมุมๆหนึ่งก็เพียงพอแล้วที่จะทำงานแบบมีโฟกัสได้ สำหรับโต๊ะพยายามให้มีเครื่องใช้ในการทำงานได้ดีที่สุด คอมพิวเตอร์ ที่ใส่เครื่องเขียน กระดาษสำหรับจด ขอให้เป็นมุมที่ เจ้าตัวโปรดของเราไม่ค่อยชอบมาเล่น อากาศไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไป มีมุมที่สามารถพักสายตาได้ก็จะทำให้สมองเราผ่อนคลายขึ้นครับ ถ้าใครสามารถตั้งโต๊ะทำงานให้อยู่คนละห้องกับห้องครัวหรือตู้เย็นก็จะยอดเยี่ยมมากครับ เพราะเวลาคุณใช้สมาธิอะไรสักอย่าง สมองเรามักจะพยายามให้เราไปสนใจขนมที่อยู่ในตู้เย็นครับ หรืออาจจะเกิดเฉพาะแอดมินก็ไม่รู้ 555
08 พยายามบอกหรือให้ข้อมูลว่า นี้คือเวลางานของฉัน ข้อนี้สำคัญมากเนื่องจากบางคนนั้นเวลาอยู่ที่บ้านไม่ได้อยู่คนเดียว เลยทำให้คนอื่นๆมักจะคิดว่าการทำงานที่บ้าน นั้นสามารถทำอะไรก็ได้ คุณพ่อ คุณแม่ เพื่อนร่วมห้อง หมาแมว หรือเพื่อนบ้าน สามารถมาคุยกับเราได้ตลอดเวลา อย่างนี้เราจำเป็นต้องหามุมและแจ้ง คนอื่นๆด้วยว่านี้คือเวลางานของฉัน ถ้าไม่มีอะไรจำเป็นจริงก็อย่าเพิ่งเข้ามาคุยตอนนี้ สามารถคุยกันได้ตอนเที่ยงหรือตอนที่เราพักเบรคเป็นต้นครับ
09 ออกไปกินข้าว หรือพบปะคนอื่นๆบ้างครับ การทำงานที่บ้านส่วนใหญ่มักจะเป็นเวลาที่เรานั่งทำงานกับตัวเอง ไม่คอยได้คุยกับใคร ข้อนี้ตรงกันข้ามกับ ข้อ8 นั้นคือ เราจำเป็นต้องจัดตารางเวลา ให้ไปดื่มกาแฟ กินข้าวกับเพื่อนๆบ้างครับ มนุษย์เราอย่างน้อย จำเป็นต้องการ การคุยการอัพเดต เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ความเป็นห่วงเป็นใย ความช่วยเหลือ การคุยกันนี้จะทำให้คนๆที่อยู่ที่บ้านรู้สึก และเคารพเวลาของเราตอนเราทำงานมากขึ้นอีกด้วย
10 ลองเปลี่ยนสถานที่นั่งทำงานบ้าง ลองไปนั่งทำงานร้านกาแฟ ทำงานที่ Co-Working Space ทำงานที่สวนสาธารณะ หรือ ห้องสมุดที่สามารถนั่งทำงานคนเดียวได้ บางครั้งงานที่ยาก เราก็จะสามารถจัดการมันได้ บางครั้งอาจจะเป็นทางเดียวที่แก้ปัญหาความรู้สึกที่นั่งอยู่ที่บ้านคนเดียวก็ได้นะครับ ลองพยายามเงี่ยหูฟังตัวเองบ้าง ว่าเรากดดันบางอย่างมากเกินไปหรือเปล่า ออกไปหากาแฟร้อนๆ ชาหอมๆ เซ็ทเพลงใหม่ๆฟังบ้างครับ แล้วจะรู้ว่าการทำงานข้างนอกนั้นช่วยเราได้อย่างมากเลย
และนี้ก็คือ 10 วิธีที่จะช่วยให้ เจ้าของธุรกิจ SME ทุกคนที่ต้องทำงานที่บ้าน ที่ Home Office นำมาปรับใช้กัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานกันครับ พวกเราเชื่อว่าในอนาคตการทำงานที่บ้าน จะมีมากขึ้นเนื่องจาก ความหนาแน่นของประชากร การจราจรอันแสนอึดอัดของเมืองหลวง และความรับผิดชอบของพวกเราที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งบทบาทของลูก บทบาทพ่อแม่ และบทบาทต่อสังคม รวมถึงการเติบโตของเทคโนโลยีต่างๆครับ สำหรับผู้ประกอบการที่อยากจะเพิ่ม อยากจะเปลี่ยนเว็บไซต์ของตัวเอง สามารถปรึกษาเราให้เราช่วยสร้างเว็บไซต์และทำการตลาดออนไลน์ให้ สามารถกดนัดหมายที่นี้ได้เลยครับ เจอกันใหม่บทความหน้าครับ
Comments