บทความนี้เหมือนจะเป็นการรีวิวแอพ หรือเครื่องมือตัวหนึ่งที่ผมเพิ่งจะรู้จัก ก่อนหน้านั้นผมมีปัญหาหรือเกินกับการโฟกัสในการทำงาน ผมได้ลองเรียนรู้วิธีทำ Time Boxing เพื่อวางแผนโดยแบ่งเวลาเป็นช่วงๆ และทำงานที่วางแผนนั้นในแต่ละวัน ในตอนที่ทำจริงกลับยากมาก เพราะผมจะเป็นคนที่ไม่สามารถ โฟกัสอะไรได้นานๆเกินกว่า 30 นาที ผมมีความคิดที่อยากจะทำนู้นนี่นั้น เข้ามาในหัวตลอดเวลา ทำให้งานที่ต้องใช้พลังโฟกัสทำได้ลำบาก อย่างเช่น งานออกแบบเว็บไซต์ให้กับลูกค้าของหนุนนำ ช่วงเวลาที่ต้องใช้สมาธิมากที่สุดคือ ช่วงออกแบบเพื่อทำให้เว็บไซต์นั้นๆตอบโจทย์ UX ให้ได้มากที่สุด แต่ปรากฏว่าแทนที่จะใช้เวลาที่กำหนดไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง งานนั้นกลับใช้เวลาจริงถึง 3 ชั่วโมงด้วยกัน
ผมเลยมาลองสังเกตและตั้งคำถามว่าทำไม ปรากฏว่าผมมักจะวางมือถือไว้บนโต๊ะ และทุกครั้งเวลามีความคิดแวบมาในหัว มักจะหยิบมือถือนั้นมาเปิดดูสิ่งที่คิด และปรากฏว่า เกือบทุกครั้งจะต้องไปเปิดแอพ Facebook บ้างหรือแอพ Line บ้าง เพื่อดูว่ามีใครติดต่อเรามาหรือไม่ ผมถึงมารู้ตัวตอนหลังจากสังเกตว่า เราไม่สามารถใช้เฉพาะ กำลังใจ (Will Power) ในการในการโฟกัสได้เพียงอย่างเดียวเราจำเป็นต้อง จัดการกับมือถือหรือสิ่งที่รบกวน (Distract) เราด้วย
ผมเริ่มที่จะค่อยๆเปลี่ยนสภาพแวดล้อม รอบๆตัวให้เหมาะกับการทำงานแบบโฟกัสมากขึ้น โดยนั่งทำงานในห้องที่เงียบ โต๊ะทำงานมีแต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ผมหาหูฟังมาลองใส่ดู แต่ยังคงมีมือถืออยู่บนโต๊ะเนื่องจาก เผื่อมีใครติดต่อมา ปรากฏว่าผลลัพธ์ดีขึ้น ใช้เวลาในการทำงานได้ แต่สายตาและความคิดยังคงแว้บไปและหยิบมือถือมาเป็นพักๆ เวลามีเพื่อนมา mention หรือสอบถามถึงเราจากในกลุ่มใหญ่ เราเผลอไปรีบตอบทุกครั้งเลย
ต่อมาผมก็เลยมาหาทางแก้โดยการ ปิด Notification ให้หมดทุกอย่าง และวางมือถือไว้อีกห้องหนึ่งก็ช่วยได้เป็นอย่างมาก แต่ก็กลัวเวลามีสายสำคัญเข้ามา มันมีวิธีอื่นหรือเปล่านะ เลยโชคดีมีโอกาสได้ฟัง Podcast ตอนหนึ่ง ได้เล่าเรื่อง App ตัวหนึ่งว่าถูกสร้างมาเพื่อช่วยเพิ่มการโฟกัสโดยเฉพาะผมเลย ดาวน์โหลดและเริ่มทดสอบ เรามาเริ่มกันเลย (ขออภัยที่เกริ่นค่อนข้างยาวนะครับ)
เรามาทำความรู้จักเครื่องมือตัวนี้กันเลย
แอพตัวนี้มีชื่อ Forest มีบริการ ทั้งบนฝั่ง Android และ iOS เป็นแอพที่เราสามารถใช้ฟรีได้ ผมเลย นั่งทดลองเล่นเวอร์ชั่นฟรี อยู่สามวัน คอนเซปต์ของแอพตัวนี้ค่อนข้างง่ายๆ ไมมีอะไรซับซ้อนคือ เมื่อคุณเข้าไปที่แอพ คุณสามารถเลือกเวลาที่จะโฟกัสได้ตั้งแต่ 10 นาทีไปจนถึง 120 นาที (หรือ 2 ชั่วโมง) ตัวแอพก็จะเริ่มนับเวลาโดยมีรูปต้นไม้เล็กๆเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆตามเวลาที่เราตั้งไว้ ยกตัวอย่างเราตั้งไว้ที่ 20 นาที ต้นไม้ก็จะเริ่มโตจากต้นเล็กๆ จนกลายเป็นต้นไม้(พุ่มไม้)เมื่อเวลาครบ ถ้าเราตั้งเวลาโฟกัสไว้นานกว่านี้ต้นไม้ก็จะโตสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ดูน่ารักดีครับ
ไฮไลท์มันอยู่ในการใช้งาน ผมเลยเริ่มต้นโดยตั้งไว้สัก 30 นาทีและลองกดปุ่ม Plant (ปลูกต้นไม้)ดู ที่หน้าจอต้นไม้ผมก็เริ่มโตขึ้น ผมก็เริ่มทำงานตามที่ผมวางแผนไว้ ผ่านไปสัก 10 นาทีในหัวผมก็เริ่มวอกแวกอีกครั้ง ผมหยิบมือถือขึ้นมากโดยตั้งใจว่าจะเปิดแอพ Line ดูหน่อย ปรากฏว่า หน้าแอพForest แสดงต้นไม้ผม ก็เด้งขึ้นมาบอกว่า “ตอนนี้ผมกำลังปลูกต้นไม้อยู่ ถ้าอยากจะไปทำงานอื่นหรือไปเล่น Line ผมต้องตัดต้นไม้ที่ผมปลูกก่อนนะ ถึงจะไปได้” แล้วข้างใต้ก็มีปุ่มคำว่า “Give up(ยอมพ่ายแพ้)” รอให้ผมกดอยู่ ในหัวผม คิดว่า ได้ไงผมอุตส่าห์ปลูกต้นไม้มาตั้ง 10 นาทีแล้วและมันกำลังค่อยๆโตขึ้นนะ เดี๋ยวเรากลับไปทำงานต่อดีกว่า บนหน้าจอเหลือเวลาแค่ 20 นาทีเอง ผมกลับไปนั่งทำงานต่อ แล้วเวลา 20 นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว มารู้ตัวอีกทีคือ โทรศัพท์สั่นเตือนว่า ต้นไม้ที่เราวางแผนปลูกไว้ 30 นาทีเสร็จแล้ว เราสามารถใส่ Tag ได้ว่าตอนเราปลูกต้นไม้นี้ เราทำอะไรอยู่
ตัวแอพให้ Tag มาคร่าว ดังนี้ Work/Study/Sport/Rest/Other เวอร์ชั่นเสียเงินจะสามารถสร้าง Tag เองได้ ผมใส่ Tag - Work และใส่รายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานไป ตัวแอพมีปุ่มให้ผมเลือกเวลาที่จะ Take a Break ได้ก่อนที่ผมจะปลูกต้นต่อไป ผมเลยเลือกสัก 15 นาทีเดินออกไปคุยกับเพื่อนร่วมงาน หลังจากนั้นผมก็สนุกกับการโฟกัสในการทำงานต่อ เย็นวันนั้นผมเปิด App Foret มาดูอีกครั้ง ปรากฏว่าทั้งวันผมปลูกต้นไม้ไปถึง 8 ต้น บางต้นมีพุ่มโตกว่าเพราะใส่เวลาโฟกัสไปถึง 120 นาที บางต้นใส่แค่ 30 นาที ผมรู้สึกสนุกและท้าทายกับตัวเองมากว่าพรุ่งนี้ ผมจะปลูกได้มากกว่าวันนี้หรือไม่ หลังจากที่เราปลูกเสร็จแอพก็จะให้รางวัลเราเป็นใบไม้ทองคำ เราสามารถนำใบไม้นี้ไปใช้ซื้อของแต่งต้นไม้แต่งป่าสนของเราได้
หลังจากทดลองไป 3 วันผมก็ติดใจในแอพตัวนี้ เลยลองสั่งซื้อตัวเต็มจำได้ว่า ราคาเต็มประมาณ 64 บาท เท่านั้น ข้อดีของตัวเต็มคือ ผมสามารถชวนเพื่อนมาร่วมกันปลูกต้มไม้ได้ แอพจะมีระบบคราวด์เพื่อให้เราไปใช้บนเครื่องอื่นๆได้ เพิ่ม Tag ที่ต้องการได้
ผมเพิ่ม “Tag-อ่านหนังสือ” เข้าไป และ “Tag-ใช้เวลากับลูก” สองอย่างนี้ ผมค่อนข้างประทับใจมาก เพราะว่าทุกครั้งที่ผมตั้งเวลาโฟกัสในการอ่าน ผมสามารถอ่านหนังสือได้มากขึ้น ปกติจะวอกแวกไปเล่นเฟซบุ๊ค หนึ่งชั่วโมงอ่านได้ไม่กี่หน้า พอมาปลูกต้นไม้ด้วย “Tag-อ่านหนังสือ” แล้วบอกได้เลยว่าหนึ่งชั่วโมงนั้นอ่านได้หลายหน้ามากครับ สำหรับเวลาที่เล่นกับลูก เมื่อก่อนผมไม่ค่อยได้กำหนดเป้าหมายนี้ ปรากฏว่าตอนเล่นกับเขา เรามักจะแอบไปหยิบมือถือมาเล่น หรือใจวอกแวกไปกับเรื่องอื่นๆ แต่เมื่อผมใช้แอพตัวนี้ ช่วงเวลาคุณภาพในการอยู่กับลูกก็มากขึ้น พูดแล้วก็ดูเหมือนเวอร์นะครับ ต้องลองไปเล่นเอง แล้วจะติดใจ
แอพ Forest เป็นเครื่องมือที่เข้ามาตอบโจทย์ชีวิตในสมัยนี้มาก ทำให้เราโฟกัสในการทำงานได้เป็นอย่างดี บริษัทแอพ Forest นี้ก็จำ Data ของผู้ใช้ไปปลูกต้นไม้ของจริงกันอีกด้วย ยิ่งเราปลูกต้นไม้ด้วยเวลาของเราโฟกัสเท่าไหร่ บริษัทเขาก็นำต้นไม้จริงไปปลูกบนโลกของเราเท่านั้น สุดยอดจริงๆเลยครับ
จำกันไว้นะครับ เวลาคือสิ่งที่เราต้องหวงแหนมากที่สุด เพราะเราไม่สามารถย้อนเวลากันกลับไปได้ Relax and Enjoy the Ride ครับ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดกันได้ อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ ไปที่ลิงค์นี้กันเลย https://www.forestapp.cc/