top of page
Writer's pictureNum | Sahathust

3 เคล็ดลับที่นำไปสู่การสร้างนิสัยที่ดีขึ้น

สวัสดีครับ ในช่วงที่ผ่านมาผมห่างหายจากการโพส์ตไปนาน เนื่องจากหลายเหตุผล หลายด้าน การทำงานที่เปลี่ยนไป และสมาชิกครอบครัวที่เพิ่มมาใหม่ เกือบประมาณ 5 เดือนที่กิจวัตรช่วงเช้าและช่วงเย็นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากการที่เคยตื่นแต่เช้า ทำสมาธิ และออกกำลังกาย ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากต้องดูแลเจ้าตัวเล็ก ในช่วงตอนกลางคืน ช่วงเช้าต้องเข้างานใหม่ ที่ต้องเรียนรู้ใหม่ตลอดเวลา

เหมือนรู้ตัวว่า สุขภาพกายและการทำงานโดยรวมนั้นแย่ลง น้ำหนักตัวผมขึ้น 5 Kg เวลาทำงานโฟกัสไม่ค่อยได้ อารมณ์แปรปรวน จากการอดนอน ผมเลยถือโอกาสกลับไปเริ่มต้น จัดการกับชีวิตผมใหม่ ผมมีจังหวะได้อ่านหนังสือ เรื่อง Atomic Habit เป็นเล่มที่ถือว่าเข้ามาได้ถูกจังหวะมาก ในเล่มนั้นเขียนชัดเจนในหลายๆเรื่องที่ผมทำไม่ต่อเนื่องการสร้างนิสัยที่ดี ต้องมีวิธีคิดและกระบวนการที่ถูกต้องด้วย ไม่อย่างงั้นอาจจะเกิดกระบวนการย้อนกลับที่ส่งผลไม่ดี ยกตัวอย่างการออกกำลังกายถ้าทำอย่างต่อเนื่องมาแล้ว ถ้าไม่ได้ทำอย่างต่อเนื่องเรา มีแนวโน้มที่จะเลิกทำกิจกรรมเหล่านั้นไปเลย กิจกรรมที่ดีมันจะส่งผลให้กิจกรรมอื่นๆดีไปด้วย


3 เคล็ดลับที่นำไปสู่การสร้างนิสัยที่ดีขึ้น | Noonnum.com


เปลี่ยนความคิดที่โฟกัสที่เป้าหมาย เป็นที่กระบวนการแทน

เมื่อก่อนนั้นผมเป็นคนที่โฟกัส ในเป้าหมายและผลลัพธ์ในกิจกรรม บอกได้เลยว่าเป้าหมายเป็นหลัก กระบวนการนำไปสู่เป้าหมายเป็นลอง ในหนังสือได้บอกผมว่า ผมมีแนวโน้มที่จะเลิกกิจกรรมได้ง่ายกว่า เพราะถ้าขาดเป้าหมายในการกระตุ้นแล้ว เราอาจจะไม่มีแรงจูงใจที่มากพอในการกลับไปทำมัน ผมควรสนใจหรือโฟกัสไปที่กระบวนการมากกว่าเป้าหมาย ยกตัวอย่าง ผมสมัครงานวิ่ง 10 KM ความสุขของผมคือช่วงเวลาที่ไปถึงเส้นชัย ดังนั้นผมต้องกระตุ้นตัวเองให้สมัครแข่งงานวิ่งไปเรื่อยๆ ทำให้ผมสนุกกับการวิ่งได้ ตอนเข้าออกมาซ้อมวิ่งเพราะเอาใจไปที่เป้าหมายอย่างเดียว แต่ช่วงโควิดนี้ งานวิ่งต่างๆถูกยกเลิกผมไม่มีเป้าหมายให้พิชิต วินัยในการซ้อมวิ่งก็เรื่มไม่ค่อยจะสำคัญสำหรับชีวิตแล้ว ในหนังสือบอกให้ผมเปลี่ยนความคิด โดยหาความสุขในระหว่างทางที่ซ้อม หรือโฟกัสที่กระบวนการเล็กๆในแต่ละวันเป็นหลัก มากกว่าจะไปโฟกัสที่เป้าหมาย เหมือนคนที่กำลังปีนเขา ให้มองหาความสวยงามของธรรมชาติในระหว่างทาง มากกว่าที่จะไปมีความสุขเมื่อถึงยอดเขาเพียงอย่างเดียว



ให้คิดว่าเราเป็นใครทำไมถึงต้องทำกิจกรรมนั้น

นอกจากนั้นหนังสือยังได้บอกอีกเคล็ดลับหนึ่งคือ ให้เราคิดว่าเราเป็นใคร ทำไมเราถึงต้องทำกิจกรรมนี้ ไม่ใช่คิดว่าเราอยากเป็นอะไรจึงต้องทำกิจกรรมนี้ ยกตัวอย่าง การที่เราจะลดความอ้วน เราควรออกกำลังกาย เพราะเราอยากมีรูปร่างที่ดีขึ้น เวลาเราเริ่มออกกำลังกายเรามักจะคิดว่าจากรูปร่างในปัจจุบัน เพื่อไปสู่รูปร่างที่ดีขึ้นในอนาคต คิดแบบนี้อาจจะมีแนวโน้มที่จะยกเลิกการออกกำลังกายได้ง่ายกว่า ให้เราคิดแบบนี้แทน ให้คิดว่าเราเป็นใครเราจึงทำกิจกรรมนั้น เช่น เราซ้อมวิ่งเพราะเราเป็นนักวิ่ง เราอ่านหนังสือเพราะเราเป็นนักอ่าน เราเป็นคนที่มีสุขภาพฟันดี เราจึงต้องดูแลช่องปากและฟันของเราให้สะอาด เป็นต้น เราเป็นคนที่มีรูปร่างดีเราจึงออกกำลังกายวันละ 30 นาที




ให้เขียนแผนที่จะทำออกมา ระบุเวลาและสถานที่ที่จะทำ

มีงานวิจัยในการลดน้ำหนักว่าวิธีไหนดีที่สุด โดยแบ่งคนออกมาเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรก ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเลย กลุ่มที่สอง ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกายส่งผลให้ หลอดเลือดหัวใจดีขึ้น ไม่เป็นโรคหัวใจตอนอายุมาก สำหรับกลุ่มที่สาม นอกจากให้ข้อมูลเหมือนกลุ่มที่สอง แล้วยังบอกให้คนในกลุ่มลงรายละเอียดวางแผนเวลาที่จะออกกำลังกาย รวมถึงระบุสถานที่ด้วย และได้ทำการบันทึกกิจกรรมของคนทั้งสามกลุ่ม 30 วันหลังจากนั้น ผลปรากฏว่า กลุ่มที่หนึ่งมีคนออกกำลังกายเพียง 5-10% ซึ่งผลลัพธ์นั้นตรงกับกลุ่มที่สองที่ได้รับข้อมูลว่าการออกกำลังกายนั้นสำคัญ สิงที่น่าตกใจก็คือคนกลุ่มที่สามที่ระบุเวลาและสถานที่ในการออกกำลังกาย มีคนทำจริงเกือบ 75% ของคนในกลุ่ม การวางแผนกำหนดเวลาและสถานที่นั้นส่งผลเป็นอย่างมากกับการที่จะทำกิจกรรมนั้นได้จริง ดังนั้นผมจึงเลือกมาปรับใช้กระบวรการนี้ โดยระบุว่า ผมควรจะนั่งสมาธิกี่นาที ที่ไหน ควรออกกำลังกายกี่นาที ตรงส่วนไหนของบ้าน


นอกจากการระบุเวลาและสถานที่ เราสามารถระบุ ถึงกิจกรรมที่ทำต่อเนื่องกันได้ด้วย เช่น หลังจากพับผ้าห่มตอนเช้าเสร็จ ก็ลุกไปเปลี่ยนชุดออกกำลังกาย เพราะการที่เรากำหนดงานต่อเนื่องส่งผลให้สมองทำงานในโหมดอัติโนมัติ เราจะได้ไม่มีปัญหาการแรงต่อต้าน ของอารมณ์



บทสรุปเทคนิค

การที่เราสนใจกระบวนการมากกว่าเป้าหมาย เปลี่ยนความคิดว่าเราเป็นใครทำไมจึงต้องทำ และการเชียนเวลา สถานที่ในการทำกิจกรรมนั้นๆ จะช่วยให้เราสร้างนิสัยที่ดีขึ้นได้ และทำได้อย่างต่อเนื่อง จากแนวคิดทั้งสามเรื่องนี้ผมมาปรับกระบวนการสร้างวินัยที่ดีใหม่อีกครั้ง ซึ่งยอมรับเลยว่าทำได้ดีขึ้นจากเมื่อก่อนและทำได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ค่อยมีอารมณ์ฝืนเท่าไร โดยเฉพาะเรื่องการซ้อมวิ่ง เราควรหันมาเปลี่ยนแปลงไปสู่วินัยที่ดีขึ้นกันนะครับ ทุกอย่างนั้นจะส่งผลให้อนาคตเราดีขึ้นเป็นลำดับ ใครมีเทคนิคที่สร้างนิสัยที่ดีด้วยวิธีการไหนก็สามารถแชร์มาได้ครับ


234 views0 comments

Comments


bottom of page