หลายคนเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับคุณภาพของเสียง ไม่ว่าจะเป็นการประชุมผ่าน Zoom ผ่าน Google Meet การบันทุกเสียง ในการทำพอดแคสต์ หรือการ Live ผ่านโซเชียลมิเดีย เรามักจะได้ยิน เวลาที่พูดผ่านไมโครโฟนกัน ทำไมคุณภาพของเสียง แต่ละคนนั้นแตกต่างกันเหลือเกิน บางคนมีเสียงลม มีเสียง Background Noise มีเสียงที่มาจากนอกห้อง เสียงรถ เสียงเด็ก เสียงสัตว์เลี้ยง แทรกเข้ามา ทำให้การสนทนาติดขัด และบางครั้งก็จะทำให้การประชุมกันขาดประสิทธิภาพ ขาดความตั้งใจ หรืออาจจะเพิ่มอารมณ์หงุดหงิดให้บางคนได้
ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำงานในบ้านที่เงียบสงบ หรือมีห้องที่ออกแบบสำหรับการอัดเสียงโดยเฉพาะ อย่างโรงเรียนสอนดนตรีดิจิทัลของน้องชายผม(inearbeat.com) เขาทำห้องสำหรับอัดสียงโดยเฉพาะแต่ก็ต้องลงทุนในอุปกรณ์ค่อนข้างสูงแต่นั้นคือสิ่งจำเป็นต่อโรงเรียน ในกรณีของพวกเราหล่ะครับ เราสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อที่จะลดเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นผมได้นำเทคนิคที่จะช่วยให้การบันทึกเสียงทำได้ง่าย และอุปกรณ์หรือ สิ่งของที่นำมาใช้ในการดูดซับเสียง ค่อนข้างหาง่ายและสะดวกในการติดตั้งมาก มาเริ่มกันครับ
พยายามบันทึกเสียงหรือประชุมออนไลน์ในห้องที่มี พรม ผ้าม่าน หรือ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ - ช่วยในการดูดซับเสียงลดการสะท้อน ยิ่งห้องที่มีพื้นผิวที่เรียบจะสะท้อนเสียงได้มาก เหอร์นิเจอร์ที่มีพิ้นทีผิวเป็นจีบเป็นร่องยิ่งดีใหญ่
พยายามให้เด็กหรือสัตวฺเลี้ยงไปอยู่อีกห้องหนึ่ง - การทำงานที่บ้านในห้องที่แชร์ร่วมกัน จะควบคุมเสียง Background ได้ยากมาก เราจำเป็นต้องหาห้องที่มีประตูปิดและบอกเด็กหรือคนที่บ้านว่า ห้องนี้เป็นที่ทำงาน เด็กๆไม่สามารถที่จะเข้ามาใช้ในช่วงขณะหนึ่งที่เราทำงานได้ เราควรแบ่งเวลาให้เหมาะสมโดยเฉพาะถ้าเราเป็นพ่อแม่ เพราะเขาต้องการเวลาของเราไม่ต่างจากเวลาที่เรามอบให้กับการทำงาน
ปรับปรุงการดูดซับเสียงของห้องนั้น - หาผ้าห่มหรือผ้านวม มาแขวนเอาไว้ด้านหลังได้เก้าอี้ช่วยให้คุณภาพของเสียงดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้เรายังได้ภาพแบ็คกราวด์เป็นลวดลายต่างๆด้วย
พยายามหลีกเลี่ยงจากเสียงพัดลม เสียงแอร์ให้ไมค์โครโฟนอยู่ห่างที่สุด - เสียงลมทำให้ผู้ฟังหงุดหงิด และจะถูก Distraction จากบทสนทนาได้ง่ายมาก ดังนั้นเราควรใส่ใจกับเสียงเหล่านี้ สิ่งที่ทำได้เลยคือ พยายามจัดตำแหน่งของไมค์ให้อยู่ห่างจาก พัดลมหรือแอร์ให้มากที่สุด แม้กระทั่งเสียงที่เกิดจากพัดลมระบายอากาศของเครื่องคอมพิวเตอร์สิ่งที่ทำได้เลย ก่อนที่จะประชุม ลองสอบถามเพื่อนๆดูว่าได้ยินเสียงเหล่านั้นหรือไม่ครับ
เพิ่มแสงสว่างให้กับห้อง - อันนี้เป็นเทคนิคที่ไม่เกี่ยวกับเสียง แต่เกี่ยวกับการสื่อสาร เนื่องจากการสื่อสารออนไลน์นั้น เวลาที่เราเปิดวีดีโอให้เห็นหน้า จะช่วยให้คนที่ร่วมประชุมได้ยินเสียงเราชัดขึ้น เมื่อเขาเห็นการเคลื่อนไหวของปากเรา ดังนั้นควรจะหาไฟ หรือเพิ่มแสงสว่างบริเวณใบหน้าเรา เพื่อการสื่อสารที่ดีขึ้นครับ
พยายามหาใช้ไมโครโฟรประเภทสวมหัว(Headset) มาใช้กัน - ตำแหน่งของไมค์ที่ดีที่สุดคือ พยายามให้อยู่ใกล้กับตำแหน่งปากของเราให้มากที่สุด -หลายคนมักจะลืมไปว่าติดตั้งไมโครโฟนเอาไว้ตรงไหน และเรามักจะถอยหรือขยับตัวออกห่างจากไมค์ พยายามเข้าใกล้ไมโครโฟนให้มากที่สุดเวลาที่เราเป็นผู้พูดครับ
ลองนำเทคนิคทั้ง 6 ข้อนี้ไปปรับใช้กันดูนะครับ จะทำให้การสื่อสารในการประชุมออนไลน์ หรือการอัดเสียง การทำพอดแคสท์ การสัมภาษณ์ ทำได้อย่างมีปะสิทธิภาพมากขึ้นว่าแลเวก็ขอตัว ไปลองทดลองเทคนิคเหล่านี้ก่อนนะครับ เจอกันครั้งหน้าครับ
สามารถฟัง EP53 นี้ได้บน Spotify:
สามารถฟัง EP53 นี้ได้บน SoundCloud: