การระบาดของโคโรน่าไวรัสไปทั่วโลกในครั้งนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตของผู้คนยุคนี้ เป็นสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของคนทั้งโลก ปรับพฤติกรรม การเดินทาง การติดต่อสื่อสาร การทำงาน การใช้ชีวิตกันใหม่ทั้งหมด
แต่สุดท้ายสถานการณ์นี้ก็จะมีวันจบ ไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจก็จะคืนกลับมาเหมือนเดิม หลังจากที่เราไม่จำเป็นต้องใช้แอลกอฮอร์ฆ่าเชื้อโรคหรือเลิกใส่หน้ากากเวลาออกไปข้างนอก การระบาดใหญ่ครั้งนี้ ยังคงทิ้งบาดแผลบางอย่างทั้งความรู้สึกของผู้คนในสังคม และเศรษฐกิจอย่างถาวร และนี่คือผลลัพธ์บางส่วนที่ดูเหมือนจะมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น
7 สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปหลังจากโคโรน่าไวรัสสงบแล้ว
การเติบโตขึ้นของบริษัทที่ให้บริการด้วยระบบดิจิตอลและอีคอมเมิร์ซ
การทำงานที่บ้านหรือทำงานทางไกลจะกลายเป็นเรื่องปกติ
งานจำนวนมากจะถูกทำเปลี่ยนเป็นระบบอัติโนมัติและสามารถสั่งงานจากระยะไกลได้
Telemedicine จะกลายเป็นค่านิยมใหม่ และการเติบโตของเทคโนโลยีทางการแพทย์
การเรียนการสอนจะถูกปรับไปเป็นการเรียนออนไลน์
สินค้าและผู้คนจะไม่ค่อยเคลื่อนไหวข้ามประเทศ จะอยู่กันในภูมิภาค
แต่ละประเทศจะร่วมมือเฝ้าระวังกันมากขึ้น มาตราฐานการป้องกันทั่วโลกจะสูงขึ้น
การเติบโตขึ้นของบริษัทที่ให้บริการด้วยระบบดิจิตอลและอีคอมเมิร์ซ
ธุรกิจที่ที่โตขึ้นในระหว่างไวรัสระบาด คือธุรกิจที่ส่งเสริมให้ผู้คนใช้ชีวิตอยู่กับบ้านและ ช่วยเหลือในการส่งมอบสินค้าและบริการมาให้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจทางด้านสินค้าและบริการทางดิจิตอล
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผู้ให้บริการทางด้าน CloudComputing อย่างอเมซอน กูเกิล และไมโครซอฟท์
ผู้ให้บริการที่ช่วยให้ทำงานที่บ้านได้ อย่าง Zoom,Slack,Microsoft Team หรือการใช้ VR โดย Oculus ผู้ให้บริการทางด้านเอ็นเตอร์เทนอย่าง Netflix และให้บริการ E-Sportอย่าง Cloud9
การใช้งานทางด้านโซเชียลมิเดียสูงขึ้น แต่รายได้จากการโฆษณาลดลงเนื่องจากหลายธุรกิจที่กระทบจากสถานการณ์ไวรัส ลดค่าใช้จ่ายทางด้านโฆษณา ยกตัวอย่าง Coca-Cola ได้ลดโฆษณาทางออนไลน์ลง ก็จะเป็นลูกโซ่ให้บริษัทผลิตสื่อโฆษณาอาจจะกระทบ รายได้ลดลงเช่นกัน
ในสถานการณ์ที่ทุกคนสั่งของมาลง มาบริโภคที่บ้าน แพลต์ฟอรม์ช็อบปิ้งออนไลน์ต่างๆ บริษัทขนส่ง รวมถึงบริษัท Food Delivery ก็จะทำกำไรกันมหาศาล และจะส่งผลทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคในระยะยาวเปลี่ยนแปลงไป เพราะติดใจกับความสะดวกสบายในการสั่งของออนไลน์ และราคาที่จับต้องได้ก็ช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคอย่างต่อเนื่อง หลังจากเหตการณ์ไวรัสสงบลง บริษัทผู้ให้บริการเหล่านี้ยังคงเติบโตมากขึ้น
การทำงานที่บ้านหรือทำงานทางไกลจะกลายเป็นเรื่องปกติ
พนักงานบริษัทหลายคนทั่วโลกปรับตัวมานั่งทำงานที่บ้านกัน ได้รับประสบการณ์ใหม่ที่ไม่คิดว่าจะได้ทำ การทำงานที่บ้าน ตัดปัญหาเรื่องความเครียดจากการเดินทาง ไม่จำเป็นต้อง ฝ่าจราจรที่หนาแน่นในช่วงเช้า เวลาที่ยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึน อยู่กับครอบครัวและคนที่รัก ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวดีขึ้น
จนทำให้พนักงานหลายคนติดใจในการทำงานที่บ้าน หลังจากเหตุการณ์ดีขึ้น หลายบริษัทคงจะมีนโยบายให้พนักงานทำงานที่บ้านอย่างจริงจัง เทคโนโลยีที่ช่วยให้ทำงานที่บ้าน ทำงานทางไกล ได้ถูกปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ค่าใช้จ่ายของออฟฟิส ก็จะลดลง ส่งผลให้ธุรกิจที่อสังหาริมทรัพย์ที่เน้นให้เช่าออฟฟิศให้เช่าที่ทำงาน ลูกค้าก็จะลดลง
ผลกระทบจากการกักบริเวณไม่ให้เคลื่อนย้ายหรือเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลให้คนที่ทำงานต่างประเทศกลับไปอยู่ประเทศของตัวเอง และปรับวิธีทำงานโดยการทำงานระยะไกลเข้ามาแทนที่ ผู้คนที่เคยหาที่อยู่อาศัยใกล้กับที่ออฟฟิศก็อาจจะขอย้ายออกไปพักอาศัยพื้นที่นอกตัวเมืองกันมากขึ้น อากาศดีกว่า และค่าครองชีพถูกกว่าการอยู่ในเมืองหลวงมาก
งานจำนวนมากจะถูกเปลี่ยนเป็นระบบอัติโนมัติ และสามารถสั่งงานจากระยะไกลได้
ในช่วงที่เกิดการระบาด บริษัทจำนวนมากจำเป็นต้องมีการปรับลดพนักงาน และนำเทคโนโลยีเข้ามาทำงานแทนพนักงานเหล่านั้น งานบางงานสามารถคิดระบบขึ้นมาใหม่ เปลี่ยนเป็นระบบอัติโนมัติ อย่างตามร้านอาหาร พนักงานเสริฟ์หรือจด Order ถูกเปลี่ยนเป็น การนำเมนูขึ้นระบบไปให้ลูกค้าเป็นผู้สั่งเอง หรืออย่างธนาคารซึ่งในปัจจุบัน ลูกค้าไม่จำเป็นต้องไปที่ธนาคารแล้ว สามารถทำธุรกรรมการเงินบนมือถือได้เลย พนักงานที่เหลือสามารถทำงานแบบรีโมทเข้ามาได้
บริษัทที่สามารถเปลี่ยนพนักงานและนำมาเทคโนโลยีมาแทนที่ได้ ก็จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นในการปรับตัวและในเชิงของการแข่งขัน โมเดลใหม่เหล่านี้ ส่งผลให้พนักงานที่ใช้แรงงานกระทบเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าเครื่องจักรและระบบปัญญาประดิษฐ์จะถูกบังคับให้พัฒนาและเข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว พนักงานที่เหลืออยู่จำเป็นต้องรีสกิลใหม่ หาทางทำงานกับเครื่องจักร โดยสามารถที่จะควบคุมพวกมันจากระยะไกลได้ การทำงานทางไกลในช่วงแรก พนักงานที่มีทักษะสูงก็จะถูกจ้าง แต่ในระยะยาวบริษัทอาจจะมีการจ้างงานพนักงานจากต่างประเทศที่มีทักษะสูงกว่า และต้องการค่าจ้างที่ต่ำกว่าก็สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะเป็นการทำงานแบบรีโมททางไกล
Telemedicine จะกลายเป็นค่านิยมใหม่ และการเติบโตของเทคโนโลยีทางการแพทย์
การรักษาและดูแลผู้ป่วยทางไกล โดยใช้เทคโนโลยี ถูกสถานการณ์บังคับให้ใช้งานกัน คุณหมอสามารถตรวจหรือสอบถามอาการคนไข้ผ่านวีดีโอคอล หรือ ผ่านซอฟท์แวร์ ทำการบันทึกข้อมูลของผู้ป่วยบนระบบคลาวด์ และสามารถอนุมัติสั่งยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นจัดส่งไปให้คนไข้ที่อยู่ที่บ้านได้
นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ป่วย ไม่จำเป็นต้องเดินทาง เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงจากไวรัสและยังช่วยให้ โรงพยาบาลมีความสามารถในการรองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักจริงๆได้ อุปกรณ์ทางด้านการตรวจรักษาและการวัดไข้ของคนไข้ก็พัฒนาขึ้นไปมาก สามารถส่งข้อมูลของคนไข้รายนั้น ไปให้แพทย์ได้ทันที
อุปกรณ์วัดความดันออนไลน์ วัดค่าเบาหวานหรือระดับน้ำตาลในเลือด วัดอัตราการเต้นของหัว แม้กระทั่งอุปกรณ์ วัดอุณหภูมิของร่างกายคนไข้ มีให้เราเลือกใช้ในราคาที่เข้าถึงได้ และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก เชื่อว่าอุปกร์เหล่านี้จะถูกพัฒนาขึ้นอย่างมาก เพราะเกิดความต้องการใช้งานในปริมาณที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน
ใครได้ลองวิธีรักษาทางไกลแบบนี้ ก็จะติดใจ เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก ลดทั้งเงิน ทั้งเวลา และความกังวลในการไปหาหมอได้ ในฝั่งของคุณหมอก็สามารถตรวจรักษาคนไข้เพิ่มได้มากขึ้น มีประสิทธิภาพในการบันทึก มีอุปกรณ์ที่ช่วยมอนิเตอร์แบบเรียลไทม์ส่งข้อมูลมาให้คุณหมอมากพอที่จะเลือกวิธีรักษา และมีระบบที่ช่วยคัดกรองคนไข้ ถ้าคนไข้คนไหน มีอาการหนัก ก็สามารถเรียกรถพยาบาลเพื่อให้มารักษาต่อที่โรงพยาบาลได้ทันที
หลายๆบริษัท หลายๆสถานที่ สถานศึกษา ลานกีฬา ก็จะติดตั้งอุปกรณ์ในการเฝ้าระวังผู้ที่มีอาการ อุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิตามจุดต่างๆ ตามอาคาร บริเวณทางเข้า-ออก กันมากขึ้นแน่นอน
การเรียนการสอนจะถูกปรับไปเป็นการเรียนออนไลน์
สถานการณ์ไวรัสระบาดครั้งนี้บังคับให้สถานศึกษาปรับวิธีสอนใหม่ โดยเน้นการสอนผ่านทางออนไลน์ทั้งหมด บางที่ก็พร้อม แต่บางที่ก็ไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ และบางที่ก็มีการขอลดค่าเล่าเรียน ค่าการศึกษาจากทางนักเรียนที่ประสบปัญหาด้วย ทางฝั่งผู้เรียนได้ถูกจำเป็นต้องปรับไปเรียนบนออนไลน์ ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนว่าจะส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงหรือไม่ แต่ที่ชัดเจนก็คือ ผู้เรียนจะมีการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นกับการเรียนแบบออนไลน์นี้ เปรียบเทียบกับการเรียนที่มหาวิทยาลัย
รายได้ของทางมหาวิทยาลัยจะลดน้อยลง รายๆอย่าง เช่นค่าอาหาร ค่าหอพัก ค่าบริการต่างๆ ที่เป็นรายได้ทางอ้อมของสถานศึกษานั้น และรายได้ที่เกิดจากค่าบริจาคของศิษย์เก่าที่เจอผลกระทบจากไวรัสก็จะน้อยลงอย่างมาก ทำให้สถานศึกษาต้องปรับตัวให้รอดอย่างเร่งด่วน
มหาวิทยาลัยที่ดังๆอาจจะมีผู้ที่สนใจลงทะเบียนเรียนมากขึ้น อาจารย์ผู้สอนรับนักเรียททางออนไลน์ได้สูงขึ้น ปรับการเรียนการสอนแบบคละกัน ไม่ว่าจะเป็น การเรียนที่ให้ผู้เรียนศึกษาเองอย่าง(Project Base Learning) สลับกับเจอหน้ากันแบบFace to Face ก็ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดีขึ้นครับ
สินค้าและผู้คนจะไม่ค่อยเคลื่อนไหวข้ามประเทศ จะอยู่กันในภูมิภาค
บริษัทที่เคยใช้ Supplier ต่างประเทศจำเป็นต้องคิดใหม่ เพราะการขนส่งสินค้า ซัพพลายต่างๆอาจจะติดปัญหาระหว่างการคัดกรอง การสั่งปิดในพรมแดนต่างๆ การเลือกซัพพลายในประเทศของตนเองก็จะเข้ามาแทนที่ ทางรัฐบาลก็จะมีนโยบายให้ใช้ของภายในประเทศ พร้อมปรับปรุงผู้ผลิตให้มีความสามารถที่สูงขึ้นในเชิงคุณภาพและราคาที่จับต้องได้
จะมีมาตราการตรวจสอบและการอนุญาตให้ผู้คนเข้าออกระหว่างประเทศ จะเข้มงวดขึ้นมาก การตรวจสอบและคัดกรอง หรือการกักตัว เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางระหว่างประเทศจะลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดส่งผลกระทบต่อธุรกิจ สายการบิน โรงแรมและการท่องเที่ยว ไปอีกสักพักภายหลังจากเหตการณ์ไวรัสจบลงแล้ว
แต่ละประเทศจะร่วมมือเฝ้าระวังกันมากขึ้น มาตราฐานการป้องกันทั่วโลกจะสูงขึ้น
การช่วยเหลือกันในช่วงที่ไวรัสระบาด โดยช่วยกันเผ้าระวัง ช่วยกันกักตัวผู้ป่วยเพื่อยุติการระบาด ส่งข้อมูลตำนวนผู้ที่ติดเชื้อ และแต่ละประเทศร่วมมือกันปฏิบัตตามคำแนะนำขององค์กรอนามัยโลก ทำให้เกิดระบบมาตราฐาน ในการป้องกันแต่ละประเทศสูงขึ้น จะทำให้ ถ้าเกิดเหตการณ์ไวรัสระบาดแบบนี้อีกครั้ง จะมีการป้องกันที่ลัดกุมมากขึ้น และแต่ละประเทศจะทำงานประสานกันมากขึ้นด้วย
ในประเทศไทยเราสิ่งที่นักธุรกิจหรือเจ้าของกิจการที่จะทำได้ก่อนที่จะรอให้ทางรัฐบาล ยกเลิกการล็อคดาวน์นั้นคือ การวางแผนเพื่อปรับธุรกิจเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และปลอดภัยมากขึ้น เพื่อทำให้ลูกค้าหรือ ผู้ใช้บริการ เกิดความเชื่อใจและมั่นใจในการกลับมาใช้บริการของเราอีกครั้ง เราจะผ่านเหตการณ์นี้ไปด้วยกันครับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
ผมได้อ้างอิงบทความนี้มาจาก เว็บไซต์ Medium จากผู้เขียน Emma Rose Bienvenu นักข่าวนักจัดรายการและเป็น Co-President ของบริษัท McGill Business Law Association
ทีมหนุนนำเป็น ผู้ช่วย และที่ปรึกษาด้านออนไลน์ เรามีบริการทางดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างเว็บไซต์ สร้างเพจธุรกิจ ทำการตลาดและจัดการโซเชียลมิเดีย สร้างสื่อวีดีโอดิจิตอล เพลงดนตรีประกอบมีเดียต่างๆ ทำโลโก้ ทำกราฟฟิค มีบริการจัดฝึกอบรม เพิ่มความสามารถให้กับพนักงาน สามารถติดต่อ Noonnum ได้ที่ลิงค์นี้หรือติดต่อเราผ่านทาง Line OA นะครับที่ @noonnum
Comments