เมื่อวานได้มีโอกาส ฟังบรรยายหนึ่งจากงาน Tech Thai Talk ในการบรรยาย ของ Cloud Engineer จากGoogle และผู้บรรยายมากประสบการณ์ท่านอื่นๆมาเล่าเรื่อง เกี่ยวกับ AI และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เทคโนโลยีทาง Blockchain รวมถึงความน่ากลัวของ CyberActtack ในอนาคตอีกด้วย ลองมาอัพเดตหัวข้อบางอย่างให้กันครับ
เรื่องแรกคงหนีไม่พ้น เทคโนโลยีทางด้าน AI อย่างที่เราอาจจะทราบกันคือ การที่ AI หนึ่งจะสามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม จะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 3 อย่างนั้น 1. Data ข้อมูลที่มีประโยชน์ 2. Algorithm อัลกอริที่มที่ฉลาด 3.Hardware ที่พร้อมซัพพอทร์ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่สามารถทำให้เกิด AI ที่ดีที่เก่งขึ้นได้ในปัจจุบัน นั้นก็มีบริษัทใหญ่ของโลกหลายๆเจ้าได้เข้ามาลงทุนกับเทคโนโลยีในอนาคตอันนี้กันอย่างมากมาย
ในเรื่องของ Data อาจจะเรียกได้ว่าปัจจุบันเกือบทุกบริษัท รวมถึงประเทศไทยก็เริ่มมีการตื่นตัว พยายามกันเก็บข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งเราสามารถเรียกได้เลยว่า เป็น Data Driven Organization กันไปแล้ว โดยแต่ละบริษัทมีการใช้เทคโนโลยีอย่าง BigData เข้ามาใช้เก็บข้อมูลกัน แล้วก็เริ่มมี Data Analysis เป็นทีมงานหลักที่สำคัญมากในการนำข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้ว เพื่อมาทำงาน ร่วมกับ CMO (Chief Marketing Officer) แต่มีงานวิจัยหนึ่งๆ ที่ผู้บรรยายเล่าให้เราฟังว่า ข้อมูลที่เรานำมานั้น ที่เป็นข้อมูลประเภทไม่มีโครงสร้างหลัก (Unstructerd Data) เก็บมาใช้จริงได้เพียงแค่ 1% เท่านั้นเพราะข้อมูลส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นโครงสร้าง ยกตัวอย่างข้อมูลประเภท PDF ไฟล์แบบนี้นำมาเก็บแลัวนำมาใช้ไม่ได้ และข้อมูลที่มีโครงสร้าง (Structured Data) ก็นำมาใช้ในการวิเคราะห์จริงได้เพียงแค่ 50% ของข้อมูลที่ถกจัดเก็บมา เพราะการเก็บข้อมูลบางอย่างนั้นไม่ได้ถูกจัดเก็บมาแค่เครื่องเดียวแบบเดียว แค่บริษัทเดียวก็มีการจัดเก็บมาหลายรูปแบบมาก ทั้งนี้การเปลี่ยน Hardware และ Software ก็มีผลที่จะส่ง DataOutput มาไม่ตรงกันครับ ไม่สามารถนำมา Match กันได้ และคุยกันคนละ Format อีกอันนี้ก็จะเป็นปัญหาตามมาในเรื่องของข้อมูลที่จะมาให้AI นำมาใช้นอกจากจะต้องปริมาณมากแล้ว จำเป็นต้องนำมาใช้ได้จริงด้วย ใน
ในเรื่องของ Algorithm อัลกอริทึ่มที่ฉลาดนั้น ก็มีส่วนที่จะทำให้ AI สามารถเก่งขึ้นได้ ฉลาดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว อย่างเมื่อก่อนทุกคนเคยทราบกันมาแล้วว่า มีข่าวที่ว่า คอมพิวเตอร์นั้นเล่นหมากรุกชนะคน จากข่าวนี้ทำให้พวกเราทราบว่า คอมพิวเตอร์เก่งขึ้นเรื่อยๆในการเล่นหมากรุก แล้วเราเคยได้ยินอีกข่าวที่เกิดขึ้นในปี 2017 ในข่าวระบุว่า AlphaZero (AIของ Google) สามารถเอาชนะ Stocfish 8 (AI ที่เป็นแชม์เปี้ยนทางด้านหมากรุกมาตั้งแต่ปี 2016) Stocfish 8 เป็นAIที่ถูกโปรแกรมที่ถูกสอนให้เรียนรู้วิธีการเดินหมากหลายรูปแบบเกือบ100 ปีของมนุษย์ มันสามารถคิดออกแบบวิธีการเดินได้ถึง 70ล้านรูปแบบต่อวินาที ซึ่งแตกต่างจากทาง AlphaZero ของกูเกิลมากที่สามารถสร้างรูปแบบได้เพียง 80000 รูปแบบค่อวินาทีในการเดินเท่านั้นและไม่ได้ถุกสอนให้เรียนรู้การเล่นหมากรุกจากมนุษย์เลย แต่ AlphaZero นั้นใช้รูปแบบอัลกอริทึ่มแบบMachine Learning โดยใช้วิธีเรียนรู้ด้วยตัวเอง และเล่นกับตัวเอง ในการแข่งกันครั้งนี้ AlphaZero ชนะไปถึง 28 ตา เสมอถึง 72 ตาและไม่มีตาไหนที่แพ้เลย สิ่งที่น่าทึ่งไม่ใช่เรื่องนี้ สิ่งที่ต้องสนใจเป็นอย่างมากคือ AlphaZero ใช้เวลาเตรียมตัวก่อนการแข่งขันเพื่อสอนตัวเองนานแค่ไหน? ใครเดาได้มั้ยครับ ว่าAlphaZero ใช้เวลาเท่าไหร่ คำตอบคือ 4 ชั่วโมงเท่านั้น เรียนรู้เองโดยที่ไม่มีมนุษย์ผู้ใดสอน (ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือ 21 Lesson for the 21st Century)
ความฉลาดของอัลกอริทึ่ม นั้นเติบโตเร็วมากเราอาจจะคาดเดาได้อย่างเร็วๆเลยว่า ไม่เกิน 5 ปีนี้เราคงได้เห็นความสามารถต่างๆของ AI ที่ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น
Hardware ที่ Support ที่สามารถส่งต่อความเร็วที่จะนำมาประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก และส่งต่อกันด้วยความเร็วที่สูง ในระดับ เทคโนโลยีล่าสุดทาง Processing Unit ยกตัวอย่างการประมวลผลด้วย Quantum Computing และการรับส่งด้วยสัญญาณ 5G ในอนาคต
หลายคนเชื่อว่า 5G ก็แค่ 4G ที่เร็วขึ้น ผมก็เป็นคนที่คิดเพียงแค่นั้น แต่เมื่อถึงยุคของ 5G นั้น จะเป็นการพัฒนาการใช้งาน Network ที่ไม่ใช่แค่ความเร็วหรือไม่ใช่แค่บนมือถือเท่านั้นครับ 5G ที่เราหมายถึงจะประกอบไปด้วยส่วนที่ดีขึ้นถึง 3 ด้าน ด้านแรกคือเรื่องของความเร็ว ความเร็วที่สูงขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว ด้านท่ีสองคือ Low Latency การตอบสนองที่รวดเร็วมาก และด้านสุดท้ายก็คือการเติบโตของ IOT (Internet of Thing) จำนวนมหาศาล อุปกรณ์แทบจะทุกสิ่งสามารถเชื่อมต่อกันได้ เรากำลังพูดถึงอนาคตที่ Sensor จำนวนล้านตัวส่งข้อมูลพร้อมกัน ทำให้รถไร้คนขับคุยกับสัญญาณจราจร จักรยาน หรือรถคันข้าง เราพูดถึงระบบ CloudVR ที่จะมอบประสบการณ์แบบ Realtime และลดการใช้ Local Storage โดยเป็นการรับส่งและประมวลผลสัญญาณแบบทันที(Work and Play In The Cloud)
ข่าวล่าสุดของ CyberAttack คือ Jan 2019 แฮคเกอร์ได้โจรกรรมข้อมูลของผู้ใช้งานและผู้เล่นในเกมส์ออนไลน์ Town of Salem จำนวน 7 ล้านยูซเซอร์ และก่อนหน้านั้น Nov 2018 Hacker ได้ขโมยข้อมูลเครดิจและพาสพอร์ท ของผู้ที่เข้าพักของโรงแรม Marriott Starwood Hotels จำนวนมากครับ ทั้งนี้ Hacker ไม่ได้โจมตีด้วยตัวเองอีกแล้วแต่ Hacker รุ่นใหม่ได้ใช้ความสามารถของ AI หาวิธีการหลอกล่อและฝังโค๊ดในช่องโหว่ต่างๆ ดังนั้น ทีม CyberSecurity จำเป็นต้องอัพเดตเทคโนโลยีของตนให้ความสามารถรวมถึงควรจะรู้ตัวให้ได้อย่างรวดเร็วนะครับ
เทคโนโลยี BlockChain เข้ามามีบทบาทในวงการเทคโนโลยีอย่างมาก ในการทำให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น การนำข้อมูลมาต่อกันและสามารถตรวจสอบได้ อาจจะเป็นประโยชน์ในวงการประกันสุขภาพในอนาคต และมีการใช้ข้อได้เปรียบอย่าง Smart Contact ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือครับ
ว้าวสำหรับหนึ่งวันที่ได้ตื่นเต้นไปกับเรื่องราวที่น่าสนใจในงาน Tech Talk Thai ครั้งนี้ สิ่งที่เรียนรู้นั้นเป็นอนาคตอันใกล้ เราต้องตั้งคำถามในฐานะผู้ประกอบการว่า จะกระทบอะไรในธุรกิจเราหรือไม่ หรือ เราจะเอาเทคโนโลยีอะไรไปปรับใช้กันบ้าง เราอาจจะเลือกใช้ Drone ติดตั้ง 5G Simcard ขับและประมวลผลเพื่อให้คอยสังเกตและส่งข้อมูล ของธุรกิจของเรา ใช้ Face Recognition เพื่อเก็บข้อมูลในการเช๊คอิน หรือติดตั้ง ชิพIOT ไว้ในโรงงานเพื่อให้ทราบข้อมูลล่าสุด เพื่อทำการซ่อมบำรุง ก็ทำได้ครับ เอาไว้เรามีเรื่องราวสนุกในครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังอีกครับ