แนะนำ 5 แอพจัดการเวลาที่ดีที่สุดที่คุณต้องมี (อัพเดต 2020 ชุดที่ 1)

ถ้าเราป่วย เราก็พักผ่อน ทานน้ำเยอะๆ ถ้าอาการหนักก็ไปหาหมอ ทานยา สุขภาพที่ดีก็จะกลับมา ดีเหมือนเดิม ถ้าเราเงินหมด ก็หากันใหม่ ทำงานกันไป เก็บเงินกันต่อ เงินก็จะกลับมาได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องของเวลานั้นไม่เหมือนกัน ถ้าใช้เวลาไปกับสิ่งที่ไม่สำคัญ สิ่งที่เร่งด่วน เราไม่สามารถเรียนเวลากลับคืนมาได้

ในหนึ่งวันเรามีเวลาคนละ 24 ชั่วโมง หรือ 1440 นาทีต่อวัน เราใช้กับการนอนไป ประมาณ 480 นาที ดังนั้นเวลาที่เหลืออีก 960 นาที เราสามารถจัดการกับเวลาตรงนี้ได้ ว่าจะแบ่งเวลาเหล่านี้ไปกับงานอะไรบ้าง และงานเหล่านั้นเป็นงานที่สำคัญต่อชีวิตเราหรือไม่ บางคนสามารถจัดการมันได้ดี แต่บางคนไม่สามารถทำได้เนื่องจากปัจจุบัน เราอยู่ในโลกแห่งความรีบเร่ง โลกของเทคโนโลยี ที่คอยมาดึงเวลาของเราไป โทรศัพท์มือถือ วีดีโอสตรีมมิ่ง โซเชียลมิเดีย อีเมล์ รวมถึง เกมส์ออนไลน์ต่างๆ

เรามีเทคโนโลยีที่ดึงความสนใจเราไป เราก็มีเทคโนโลยีที่เป็นผู้ช่วยในการจัดการเวลาของเราเหมือนกัน ผมได้นำแอพพลิเคชั่น เครื่องมือบริหารเวลาที่ผมมักจะใช้ในการ ตัดความวอกแวก และรบกวนสมาธิในตอนทำงานที่สำคัญ ผมแบ่งแอพออกเป็นสองตอน 5 App แรกจะเน้นเครื่องมือ การจัดการเวลา ช่วยโฟกัสกับงาน ส่วนแอพที่เหลือจะเป็นแอพช่วยจัดการชีวิต ลองดูแอพห้าตัวแรกที่ผมใช้บ่อยกันได้เลย

Kiwake App

ขอเริ่มต้นด้วยอันนี้ คุณเป็นคนประเภทต่อสู้กับนาฬิกาปลุกในทุกๆเช้าหรือเปล่า ผมเป็นคนหนึ่งในนั้น ปุ่ม Snooze เป็นเพื่อนรู้ใจ คอยต่อชีวิตการหลับนอนให้ได้ยาวนานขึ้น ผลลัพธ์ก็คือ การนอนต่อบนเตียงและตื่นสาย

Kiwake เข้ามาเปลี่ยนวิธีการปลุกเพื่อให้คุณสามารถลุกออกจากเตียงได้ด้วยวิธีใหม่ เพื่อให้สร้างนิสัยตื่นเช้าขึ้นมาโดย ตัวแอพจะมีหลายวิธีที่จะมาช่วยปลุกคุณไม่ว่าจะเป็น การเรียกให้คุณลุกขึ้นมาถ่ายรูป สิ่งของที่อยู่ไกลๆ หรือปลุกคุณขึ้นมาให้เล่น Mini Brain Game หรือชวนคุณดูงานที่ตั้งใจว่าจะทำในวันนี้ บนแอพ Kiwake ไม่มีปุ่ม Snooze ให้คุณกด ช่วยให้คุณกลายเป็นคนใหม่ที่ สามารถตื่นเช้าขึ้น

ราคา : 250 บาท

มีให้ใช้บน iOS app เท่านั้น

Rescue Time

การทำงานอยู่ที่บ้านนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นอย่างแรกคือ การบริหารจัดการเวลา ในแต่ละชั่วโมง เวลาไหนที่ควรโฟกัสกับงาน เวลาไหนที่เป็นเวลาพัก Rescue Time ถูกออกแบบให้เป็นตัวฝึกให้เราใช้เวลาได้อย่างเหมาะสมขึ้น ทำให้เรามีเวลามากขึ้นในแต่ละวัน แอพตัวนี้จะเข้ามาช่วยบันทึกเวลาของเราบนคอมพิวเตอร์ว่าคุณใช้เวลาไปกับโปรแกรมอะไรบ้าง หรือเว็บไซต์ตัวไหนบ้าง

นอกจากนั้นตัวโปรแกรมยังถูกออกแบบให้ตั้งการเตือนการใช้งานโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งนานเกินไปด้วยซ้ำ ในบางจังหวะเราหยุดพักโดยการเล่น Facebook นิดหน่อย เราสามารถตั้ง ลิมิตสัก 20 นาทีหรือ ตั้งบล็อคการเข้าถึงเว็บไซต์หรือ แอพพลิเคชั่นบางตัว โปรแกรมนี้ก็สามารถทำได้ Rescue Time สามารถใช้งานควบคู่กับ Google Calendar Office 365 Calendarหรือ Slack และอีกหลายโปรแกรม

ราคา : ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับ Basic Plan แต่ถ้าใช้งาน Premium Plan เหมาะสำหรับคนที่จะฝึกเปลี่ยนนิสัยของตัวเอง ให้ใช้เวลาได้ดีขึ้น จะเสียเดือนละประมาณ 300 บาทต่อเดือน โดยจะมี Challenge ต่างๆขึ้นมาให้เราเพื่อฝึกสามารถทดลองใช้งาน Premium Plan ได้ฟรี 14 วัน

มีให้ใช้งานบน คอมพิวเตอร์ บน iOS App และ Android App

Pocket

เครื่องมืออีกตัวที่ผมชอบมากนั้นก็คือ แอพ Pocket พ็อกเก็ตซึ่งรู้จักกันในชื่อ Read It Later เป็นแอปพลิเคชันและบริการเว็บสำหรับจัดการรายการอ่านบทความและวิดีโอจากอินเทอร์เน็ต เวลาเราเจอบทความดี ที่ต้องอ่าน ที่ต้องเรียนรู้ แต่เวลาเรามีจำกัด แอพตัวนี้จะเข้ามาช่วยให้เราเก็บบทความนั้นและสามารถนำไปอ่านในช่วงที่เรามีเวลาได้ การอ่านบทความในแต่ละวัน เป็นการอัพเดตข่าวสารเพื่อให้เราทันต่อเหตการณ์ ยิ่งถ้าเป็นคนที่ทำงานอยู่ในวงการ Digital Marketing ด้วยแล้วเราต้องหมั่น Stay Update ทุกวัน แต่ไม่ทุกเวลา ผมเพิ่งมาค้นพบจากแอพ Rescue Time ตัวที่เราเพิ่งพูดถึงก่อนหน้านี้ ผมมักจะใช้เวลาหลายๆ ช่วงไปกับการ อ่านบทความบนอินเตอร์เน็ต แบบไม่มีคุณภาพ ผมเลยฝึกเปลี่ยนนิสัยโดยใช้แอพ Pocket ช่วยโดยนำบทความต่างๆมาจัดเก็บบน Pocket และเซ็ตเวลาช่วงหนึ่งไว้อ่านบน Pocket App แทน Happy มากๆ

ข้อดีของการเก็บบทความบน Pocket คือมันจะตัดโฆษณาและจัดฟอนต์ตัวอักษรให้เราอ่านได้ง่ายขึ้น ในระหว่างที่เราเดินทางเราสามารถให้ Pocket อ่านออกเสียงให้เราฟังได้ด้วย แถมเรายังเซฟวีดีโอที่เราสนใจลง Pocket ได้ทันที โดยปกติเราคลิกขวาที่ลิงค์ก็สามารถเลือก เซพไว้บน Pocket ได้เลย หรือใช้คีย์ลัดนี้ Ctrl+Shift+P (Windows), Command+Shift+P (Mac)

ราคา : ไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับ Premium จะมีพื้นที่เก็บแบบ Unlimited และ มี Premium Fontให้เลือกใช้ ราคา ประมาณ 200 บาทต่อเดือนครับ

สามารถใช้งานได้ บนเครื่อง Mac หรือบน Google Chrome บน iOS App และ Android App

HabitBull

การสร้างนิสัยใหม่ได้นั้นคือการลงมือทำอะไรซ้ำติดต่อกัน เป็นเวลาถึง 66 วัน ในช่วงเริ่มต้นวันแรกๆ เราจะทำได้ค่อนข้างยาก จากความไม่เคยชิน และอารมณ์และความรู้สึก เริ่มที่จะมีอิทธิพลเหนือเหตุและผล ส่งผลให้การเปลี่ยนนิสัยใหม่ทำได้ยากยิ่งนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเคยชินในการทำซ้ำๆ จะทำให้นิสัยใหม่ของเราทำงานโดยอัติโนมัติ คล้ายกับลูกตุ้มที่แกว่งไปมา ตอนแรกจะออกแรงแกว่งยากแต่เมื่อแกว่งได้แล้วจะมีโมเมนตัมทำให้การแกว่งเราไม่ต้องออกแรงมาก

HabitBull จะเป็นแอพที่เข้ามาช่วยให้เรา Keep Track หรือบันทึกนิสัยใหม่ๆว่าเราทำได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ในแอพจะมี Best Good Habit หรือ นิสัยที่ดียอดนิยมต่างๆ ให้เราเลือกที่จะฝึกทำมัน ไม่ว่าจะเป็น การฝึกนั่งสมาธิ สร้างนิสัยอ่านหนังสือ ออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งจำกัดการดื่มกาแฟ ผมได้นำมันมาใช้สำหรับ การสร้างนิสัยการเขียน การออกกำลังกายตอนเช้า การทำสมาธิ 15 นาทีก่อนนอน การเข้านอนก่อนสามทุ่ม และเล่น Facebook ไม่เกิน 20 นาทีต่อวัน

ราคา : ในเวอร์ชั่นฟรีสามารถ ฝึกนิสัยได้ 5 อย่างผมว่าค่อนข้างเพียงพอแล้ว แต่ถ้าใครอยากเปลี่ยนนิสัยมากกว่านั้น ก็สามารถเลือกซื้อแบบตัวเต็มได้ ราคาประมาณ 300 บาทครับ

มีให้ใช้งานบน iOS App และ Android App

Freedom

เคยมีคำกล่าวที่ว่า “มีเพียงคนที่มีระเบียบวินัยเท่านั้นที่มีอิสระในชีวิต หากคุณไม่มีวินัย คุณจะเป็นทาสของอารมณ์ของคุณ คุณเป็นทาสของความอยาก นั่นคือความจริง” ผู้ที่กล่าว คือ Eluid Kipchoge มนุษย์คนแรกที่สามารถวิ่งมาราธอนจบได้ในเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมง คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงเลย Freedom อิสระในชีวิต เราต้องมีวินัยในการใช้เวลาของเรา แอพตัวนี้จะเข้ามา เพื่อบล็อคทุกอย่างที่จะมารบกวนเราตอนเราทำงาน ไม่ให้เราสามารถซื้อของออนไลน์ ไม่ให้เราเช็คไอจี หรือ เช็คสถานะเพื่อนๆบนเฟซบุ๊ค หรือแม้กระทั่งเช็คข่าวสารบนเว็บไซต์ต่างๆ แอพ Freedom จะไม่ยอมให้เราเสียเวลาไปกับเรื่องพวกนี้ เมื่อคุณมีเวลาที่จะจดจ่อกับงานตรงหน้าและทำงานเหล่านั้นเสร็จ คุณจะรู้สึกถึงความเป็นอิสระที่แท้จริง

ราคา : ใช้งานได้ฟรี ในเวอร์ชั่นพรีเมี่ยม เราสามารถสร้างช่วงเวลาที่บล๊อค (Session) เพิ่มต่อวันได้ และตั้งเวลาอย่าง บล็อคการใช้งานช่วง 9 -11 โมงทุกวัน และมีเสียงที่ช่วยให้เราสามารถโฟกัสกับงานที่อยู่ตรงหน้าได้มากขึ้น

สามารถใช้งานได้ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือบน Google Chrome บน iOS App และ Android App

ทั้ง 5 โปรแกรมที่ผมได้รีวิวไป ผมได้ใช้งานอยู่ทุกวัน บางตัวใช้บนคอมพิวเตอร์ บางตัวติดตั้งบนมือถือ ตัวไหนที่ชอบฟีเจอร์ก็เลือกใช้แบบชุดพรีเมี่ยม แต่อย่าลืมว่าทั้งหมดเป็นแค่เครื่องมือ เครื่องมือที่ดีต้องมีผู้ใช้งานที่ดีด้วยเป็นของคุ่กัน เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดที่เราไม่สามารถ ดึงมันกลับมาใช้ใหม่ ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน เลือกใช้เวลาไปกับสิ่งที่สำคัญของคุณนะครับ

ทีมหนุนนำเราเป็น ผู้ช่วย และที่ปรึกษาด้านออนไลน์ เรามีบริการทางดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างเว็บไซต์ สร้างเพจธุรกิจ ทำการตลาดและจัดการโซเชียลมิเดีย สร้างสื่อวีดีโอดิจิตอล เพลงดนตรีประกอบมีเดียต่างๆ ทำโลโก้ ทำกราฟฟืค มีบริการจัดฝึกอบรม เพิ่มความสามารถให้กับพนักงาน สามารถติดต่อ Noonnum ได้ที่ลิงค์นี้ หรือติดต่อเราผ่านทาง Line OA นะครับที่ @noonnum