ทาง Youtube ได้บันทึกวีดีโอแรงบันดาลใจจาก ผู้ที่ประสบความสำเร็จต่างๆทั่วโลกในแต่ละสาขาอาชีพ เจ้าของธุรกิจ คนดัง เหล่าดารา นักร้อง นักกีฬา มาพูดให้แรงบันดาลใจ ให้กับนักเรียน นักศึกษาที่จบการศึกษาในปี 2020 ให้ได้ฟังกัน วันนี้ผมนำ คำพูดของคุณ Sundar Pichai ซีดีโอของบริษัทกูเกิล แปลมาฝากกันครับ
“สวัสดีทุกคนครับ ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่จบการศึกษาในปี2020 รวมถึงผู้ปกครองและคนอื่นๆ ที่ช่วยให้คุณมาถึงทุกวันนี้
ผมไม่เคยคิดเลยว่า จะได้กล่าวสุนทรพจน์โดยที่ไม่มีผู้ชมตัวจริงๆ และบันทึกวีดีโอมาจากสวนหลังบ้านของผม แต่มันทำให้ผมเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งเลยว่าการเป็น Youtuber เป็นอย่างไร และผมก็ไม่เคยคาดฝันเลยว่าจะได้แชร์เวทีเสมือนนี้ร่วมกับอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา หรือ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
อย่าง มิเชล โอบามา และเลดี กาก้า และ บียอน เซ่ รวมถึงวง BTS ด้วย
ผมไม่เคยคิดเลยว่านี้จะเป็นพิธีสำเร็จการศึกษาที่พวกคุณได้จินตนาการไว้ ในช่วงเวลาที่คุณควรจะฉลองความสำเร็จ ให้กับความรู้ที่คุณได้รับทั้งหมด คุณอาจจะเสียใจกับสิ่งที่คุณได้เสียไป สิ่งที่ขับเคลื่อนอยู่ภายในตัวคุณ ที่คุณเตรียมวางแผนเอาไว้ งานที่คุณกำลังจะได้ทำ และประสบการณ์ที่คุณเฝ้ารอคอย สำหรับในช่วงเวลาที่ทุกอย่างหยุดนิ่งเช่นนี้ อาจจะเป็นเรื่องยากที่ จะรู้สึกถึงคำว่า ความหวัง
อนุญาตให้ผมได้พาพวกคุณกระโดดไปตอนจบของเรื่องและบอกคุณว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ คุณจะเอาชนะมันได้ในที่สุด
อย่าเพิ่งตื่นเต้นจนเกินไปนะครับ ผมไม่ได้หมายถึงตอนจบของสุทรพจน์นี้ที่ผมจะพูด
แต่ผมหมายถึง เหตุผลที่ผมรู้ว่า พวกคุณจะชนะ นั้นก็คือ เพราะมีคนอื่นเคยผ่านเหตการณ์คล้ายกันนี้ในอดีตมาก่อน ร้อยปีที่ผ่านมา ในปี 1920 นักศึกษาจบการศึกษาในช่วงที่มีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ไปทั่วโลกเหมือนกัน ห้าสิบปีก่อนหน้านี้นักศึกษาจบการศึกษาท่ามกลางสงครามเวียดนามที่ร้อนระอุ และในช่วง 20ปีที่ผ่านมาในปี2001 มีพิธีจบการศึกษาก็ถูกจัดขึ้นหลังจากเหตการณ์เกิดขึ้น 9-11 เพียงไม่กี่วัน
มีเหตการณ์ที่ต้องจดจำเหล่านี้เกิดขึ้นอีกมากมาย พวกเขาต้องเอาชนะความท้าทายใหม่ๆ และสุดท้ายพวกเขาผ่านมันไปได้อย่างผู้ชนะ ประวัติอันยาวนานที่ผ่านมาบอกกับเราว่า ความหวังคือสิ่งที่จำเป็น
ดังนั้นขอให้พวกขึ้นมีความหวัง
มีแนวโน้มหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นนั้นก็คือ เป็นเรื่องปกติ ของผู้คนทุกยุคทุกสมัยที่มักจะประเมินคนรุ่นใหม่ อย่างพวกคุณว่ามีศักยภาพน้อยกว่ารุ่นตัวเอง
มันเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ได้ตระหนักเลยว่า ความคืบหน้าของคนรุ่นหนึ่งจะเป็นรากฐาน ส่งต่อไปให้คนรุ่นต่อไปได้ และต้องใช้คนรุ่นใหม่ เพื่อเข้ามาช่วยหาหนทาง หาโอกาสใหม่ หาความเป็นไปได้ใหม่ๆ
ผมได้เติบโตขึ้นในสังคมที่ไม่ได้เข้าถึงเทคโนโลยีมากนัก ครอบครัวผมเพิ่งจะมีโทรศัพท์ใช้ตอนผมอายุ 10 ขวบ ผมเพิ่งจะมีโอกาสได้ใช้คอมพิวเตอร์ก็ตอนที่มาเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกานี้ ทีวีของพวกเราตอนเราได้รับมาก็สามารถดูรายการได้เพียงหนึ่งข่องเท่านั้น
ลองจินตนาการกันดูนะครับ ว่าผมจะรู้สึกประหม่าแค่ไหน ที่มาพูดต่อหน้าคนดูผ่านแพลตฟอร์มทีมีช่องรายการนับล้านช่อง
ในทางกลับกันพวกคุณโตขี้นมากับคอมพิวเตอร์ ทุกแบบ ทุกขนาด โตขึ้นมากับความสามารถที่พวกคุณสามารถจะถามคอมพิวเตอร์ได้ในทุกเรื่อง ในทุกๆที่บนโลกนี้ นั้นเป็นงานที่ผมทำในช่วงสิบปีที่ผมผ่านมา แต่ถ้ามันไม่ทำให้คุณร้องว้าวก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ มันไม่ทำให้ผมรู้สึกแย่เลย มันทำให้ผมรู้สึกถึงความหวัง
เทคโนโลยีอาจจะทำให้คุณหงุดหงิดหรือ รู้สึกใจร้อนไปบ้าง
ทั้งความหงุดหงิดและความใจร้อนเหล่านี้ที่คุณจำเป็นต้องมี มันจะช่วยให้คุณได้สร้างเทคโนโลยีรุ่นต่อไป เทคโนโลยีใหม่ที่คนรุ่นผม ไม่คาดคิดถึง ไม่สามารถจินตนาการได้
คุณอาจจะรู้สึกหงุดหงิด เกี่ยวกับสิ่งที่คนรุ่นผมได้ทำให้เกิดไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศที่แย่ลง หรือเรื่องเกี่ยวกับระบบการศึกษา เราต้องพึ่งพาความใจร้อน ไม่ยอมอดทนกับอะไรเดิมๆเหล่านี้ เพื่อที่จะสร้างความก้าวหน้าที่โลกใบนี้ต้องการ
คุณจะทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นในแบบของพวกคุณเอง แม้ว่าตอนนี้คุณยังไม่รู้วิธีการ สิ่งสำคัญก็คือการเปิดใจให้ว้างขึ้น เพื่อให้คุณได้ค้นหาและลงมือทำในสิ่งที่คุณรัก
สำหรับผมก็คือเทคโนโลยี สำหรับครอบครัวผม ยิ่งได้เข้าถึงเทคโนโลยีได้มากเท่าไร พวกเราก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเมื่อผมจบการศึกษา ผมรู้ว่าต้องสร้างบางสิ่งที่นำเทคโนโลยีไปสู่ผู้คน
ในตอนนั้นผมคิดได้อย่างเดียวว่า ผมต้องสร้างอะไรที่มากกว่า แค่เซมิคอนดักเตอร์ที่เร็วขึ้น มีอะไรที่จะทำให้ผมติ้นเต้นไปมากกว่านั้นอีก
พ่อของผมได้ใช้เงินเดือนทั้งปีของท่าน เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินให้ผมได้บินมาอเมริกามาเรียนต่อที่ หมาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด เป็นครั้งแรกของผมที่ได้นั่งเครื่องบิน หลังจากที่เครื่องได้ลงจอดที่แคลิฟอร์เนีย ทุกอย่างไม่ได้เหมือนกับที่ผมได้จินตนาการไว้ การใช้ชีวิตที่อเมริกามีราคาแพง การโทรศัพท์กลับบ้านมีค่ามากกว่า $2 ต่อนาที กระเป๋าเป้สะพายหลัง1 ใบมีค่าเท่ากับเงินเดือนทั้งเดือนของพ่อผมในอินเดีย
และใครที่มักจะพูดถึงความอบอุ่นของชายหาดในแคลิฟอร์เนีย ผมขอค้าน น้ำทะเลนั้นหนาวจัดมาก!
เหนือสิ่งอื่นใด้ ผมคิดถึงทุกคนที่อยู่อินเดีย ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูงและแฟนผม ซึ่งตอนนี้กลายเป็นภรรยาของผม
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดตอนนั้นคือ การที่ได้คำนวณ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมสามารถใช้คอมพิวเตอร์เมื่อใดก็ตามที่ผมต้องการมัน เป็นช่วงที่สุดยอดที่สุด
และในตอนนั้นอินเตอร์เน็ตก็ถูกสร้างขึ้นรอบๆตัวของผม ในปีแรกที่ผมไปถึงแสตนฟอร์ดเป็นปีเดียวกับที่เบราว์เซอร์โมเสกเปิดตัวซึ่งทำให้ เวิลด์ไวด์เว็บ(www) และอินเทอร์เน็ตเป็นที่นิยม
ฤดูร้อนที่ผมจากมานั้น เป็นฤดูร้อนเดียวกันกับนักศึกษาปริญญาโท Surgey Brin ได้พบกับนักศึกษาวิศวกรรม Larry Page (สองผู้ก่อตั้งบริษัท Google ผู้แปล)
ช่วงเวลาที่สองคนพบกันนี้ มันกำหนดชีวิตของผมที่เหลือ แต่ตอนนั้นผมแค่ยังไม่รู้ตัว
ผมใช้เวลาพักใหญ่ในการตระหนักว่าอินเตอร์เน็ตจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ ผมก็ได้ปรับเปลี่ยนชีวิต และตัดสินใจเดินตามความฝันของผมที่กูเกิล
แรงบันดาลใจที่ผมได้รับในการใช้งานบราวเซอร์ตัวแรกของโลก ส่งผลให้ผมได้พยายามที่จะสร้างและเปิดตัวบราวเซอร์ของกูเกิลที่เรียกว่า Chrome ในปี 2009 และพยายามที่จะช่วยกูเกิลผลักดันให้เกิด แล็ปท็อปและมือถือราคาถูก เพื่อให้นักเรียนที่เติบโตขึ้นในทุกพื่นที่ หรือส่วนใดของโลก สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เช่นเดียวกับคุณ
ทุกคน
ถ้าผมเลือกที่จะเรียน หลักสูตรในมหาลัยต่อ ผมอาจจะเรียนจบถึงปริญญาเอก ซึ่งจะทำให้พ่อกับแม่ผมภูมิใจแต่ ผมจะพลาดโอกาสที่จะนำประโยชน์ของเทคโนโลยีมาสู่ผู้คนมากมาย
และแน่นอนว่าผมจะไม่มีทางที่จะได้ยืนอยู่ตรงนี้เพื่อพูดคุยกับคุณในฐานะของซีอีโอกูเกิล จงเชื่อผมครับ เมื่อผมบอกกับพวกคุณว่า ผมไม่ได้สัมผัสกับสิ่งนี้ เมื่อตอนที่ ผมได้บินมาที่แคลิฟอร์เนียครั้งแรก เมื่อ 27 ปีที่แล้ว
สิ่งเดียวที่ทำนำพาผมจากตอนนั้นมาสู่ตอนนี้ นอกจากโชคแล้ว นั้นก็คือ ความหลงไหลในเทคโนโลยีและใจที่เปิดกว้าง
ดังนั้นผมอยากให้พวกคุณ ค้นหาสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้น มากกว่าสิ่งอื่นใดในโลก ไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่ของพวกคุณต้องการให้คุณทำ หรือเป็นสิ่งที่เพื่อนของคุณกำลังทำอยู่ หรือเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวังในตัวคุณ
ผมรู้ว่าคุณได้รับคำแนะนำมากมาย ในวันนี้ ผมจะอนุญาต จบด้วยประโยคนี้
จงเปิดหัวใจ จงกระหายที่จะค้นหา จงมีความหวัง
ถ้าคุณทำได้ ประวัติศาสตร์ก็จะจดจำ นักศึกษาที่จบในปี 2020 นี้ ไม่ได้จำในสิ่งที่คุณได้สูญเสียไป แต่เป็นจะจดจำในสิ่งที่คุณจะลงมือเปลี่ยนแปลงมันต่างหาก
คุณมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ผมว่าคุณทำได้แน่นอน"
สำหรับคนที่สนใจใน Dear Class 2020 ที่รวม Speech ของทุกคนเอาไว้สามารถเข้าไปชใได้ที่ลิงค์นี้ครับ https://www.youtube.com/playlist?list=PLjq6DwYksrzxue8EuB6CxNEUtb2pHW-Rt
ฟัง Noonnum Podcast EP69 บน Spotify :
ฟัง Noonnum Podcast EP69 บน SoundCloud:
Comments