top of page
  • Writer's pictureNum | Sahathust

8 เทคนิคเรียกลูกค้ามาที่หน้าร้านออนไลน์(ตอนแรก)

พ่อค้าแม่ค้าหรือนักธุรกิจ หน้าใหม่ หน้าเก่า หน้าเก๋า ทุกท่าน เราลองมองย้อนกลับไปในสมัยก่อนถ้าเราอยากจะให้ลูกค้ามาซื้อของที่ร้านเรา เราจะทำยังไงครับ? เราอาจจะต้องมองหาทำเลที่ลูกค้าเดินผ่าน หรือนั่งรถผ่านทุกวันใช่มั้ยครับ เราอาจจะหาที่เหมาะๆสำหรับแปะป้ายโฆษณาที่เสาไฟฟ้า หรือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ อาจจะต้องติดไฟช่วยให้ลูกค้าเห็นทั้งวันทั้งคืน ของในร้านอาจจะต้องวางให้ดูดี พนักงานขายของเราต้องเนี้ยบมีความรู้ ช่วยเหลือลูกค้าได้ เวลามีโปรโมชั่น ต้องลดราคาเพื่อให้คนมุงดู


เทคนิคการดึงลูกค้าเข้ามาที่หน้าร้านออนไลน์ | Noonnum.com
เทคนิคการดึงลูกค้าเข้ามาที่หน้าร้านออนไลน์ | Noonnum.com

ตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบัน ลูกค้าของเราในทุกวันนี้ เขาทำอะไรกัน วันนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เดินผ่านหน้าร้าน ดูโฆษณาที่ที่เดิมแล้ว หรือกระทั่งบนโฆษณาทีวีแบบเดิมก็ไม่ค่อยได้เห็น พวกเขาเอาเวลาส่วนใหญ่ไปใช้อยู่บนโลกออนไลน์ เขาใช้เวลาช่วงเช้าไปกับการเช็ค Line ในกลุ่มว่า เมื่อคืนก่อนนอนมี Message ไหนที่เด้งมาแล้วพลาดไม่ได้อ่านเพื่อจะได้ตอบกลับ ช่วงสายๆเปิด Youtube เพื่อฟังเพลงหรือดูละครที่ค้างอยู่ ตกบ่ายๆเช็คเพื่อนๆที่อยู่บน Facebook ว่าใครเป็นยังไงกันบ้าง ปรากฏว่าช่วงนี้มีปัญหาเรื่องฝุ่น หาซื้อหน้ากากหรือเครื่องกรองฝุ่นเพื่อเปรียบเทียบราคาดีกว่า เปิด Lazada หรือ Shoppee เพื่อค้นหา เปรียบเทียบ และสั่งซื้อ สักพักช่วงเย็นค้นหารายการทีวี ดูซีรีย์จาก Netflix ก่อนนอนส่ง Line ส่งสติกเกอร์ ราตรีสวัส ไปหาแฟน พ่อแม่ เพื่อนๆ นี้แหละครับ ไลฟ์สไตล์ ของลูกค้า ไม่ใช่แค่สังคมเมืองเท่านั้นนะ รูปแบบการใช้ชีวิตนี้เกิดขึ้นในสังคมเกือบทั้งหมดในบ้านเราครับ


อ้าวแล้วแม่ค้า พ่อค้า นักธุรกิจอย่างเราจะทำยังไงดีหล่ะ จะต้องเปิดออนไลน์(Online)มั้ย หรือ จะต้องเปิดสาขา เพิ่มร้านให้มากขึ้น(Offline) คำตอบก็คือ ต้องเปิด On-Life คือต้องดูว่าลูกค้าของเราอยู่ที่ไหนกัน เราก็ต้องไปเปิดตรงนั้น ถ้าลูกค้าส่วนใหญ่เขาอยู่ในออนไลน์ก็จำเป็นจะต้องมีออนไลน์ครับ ถ้าลูกค้าอยู่ออฟไลน์ก็ต้องไปอยู่ตรงนั้น บางครั้งเราอาจจะต้องให้หน้าร้านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ของเราทำงานไปด้วยกันให้ได้ ก็จำเป็นเหมือนกันครับ วันนี้หนุนนำเรามาแนะนำเทคนิคเล็กน้อยในการ ดึงลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมซื้อของในหน้าร้านออนไลน์ของเรา กับ เทคนิคดึงลูกค้าเข้ามาซื้อของหน้าร้านออนไลน์



โปรโมชั่นจะดึงดูดแต่หลังจากนั้นต้องทำการตลาดต่อ | Noonnum.com
แคมเปญและโปรโมชั่นสำคัญนะ | Noonnum.com

01 จัดโปรกันหน่อยดีมั้ย

ลูกค้าส่วนใหญ่ ถ้าเห็นคำว่า Sale “ลดราคา”ใครบ้างจะอดใจไหว ดังนั้นเราจำเป็นต้องจัดสร้างข้อความหรือวางแผนแคมเปญที่กระแทกใจได้ใจลูกค้า ยกตัวอย่าง


- แจกของตัวอย่างหรือให้ส่วนลดบางอย่างฟรีกรณีที่เป็นลูกค้ารายใหม่ หรือมีการส่งอีเมล์เพื่อสมัครสมาชิกรับข่าวสารอาจจะส่งบัตรส่วนลดหรือของแถมต่างๆไปพร้อมกับการสั่งซื้อในครั้งให้กับลูกค้าโดยเราอาจจะใช้ Banner หรือ Popup หรือไอคอนที่เป็นริบบ้อนแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าสินค้าของเรานั้นทำการ Sale อยู่ครับ


- ลดได้ภายใต้เวลาจำกัด อันนี้ถ้าใครเคยเห็นว่ามีเว็บไซต์ใหญ่จะตั้งกติกาว่า ลูกค้าจะได้รับส่วนลดมากๆถ้าสั่งซื้อในเวลานี้ หรือ บนเวบไซต์เราใส่ Countdown Clock หรือ ตัวนับถอยหลังเพื่อจะมีโปรโมชั่นใหญ่ออกมาให้เห็นหรือแสดงออกมา ทำให้ลูกค้าเข้ามาดูบนเว็บเราบ่อยๆก็ทำได้จัดไปซื้อ 1 แถม 1 อะไรก็ได้ครับ หมวด ครีมอาบน้ำ สบู่ ยาสีฟัน หรือบริการที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า ในการทดลองใช้อาจจะเป็นสินค้าใหม่ บริการใหม่เพื่อให้ลูกค้าเกิด Feedback ส่งกลับมาหาเราครับ


- ส่งคูปอง ปัจจุบันเราสามารถส่ง E-Coupon ไปให้กับลูกค้านั้นก็คือ Code ที่ลูกค้าสามารถนำไปใส่เพื่อให้ได้ส่วนลดเพิ่มตอนสั่งซื้อ หรือเป็นคูปองการซื้อซ้ำ หรือซื้อในครั้งถัดไปเพื่อให้ลูกค้าเกิดความคุ้มค่า และประทับใจในธุรกิจของเราครับ ปัจจุบันเราสามารถเปิดบริการคูปองที่เป็นส่วนลดส่งผ่าน Line@ กันได้แล้วนะครับ


การทำโปรโมชั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการดึงลูกค้าเท่านั้น เราต้องพยายามมอง Business Model ของเราว่าถ้าลูกค้ามาหน้าร้านและเลือกใช้บริการจากโปรโมชั่นนี้แล้วเราจะวางแผนอะไรหรือให้บริการอะไรต่อเพื่อให้ลูกค้ารายนั้นๆเกิดการ Re-Visit หรือ กลายเป็นลูกค้าที่แนะนำสินค้าของเราให้ต่อครับครั้งหน้ามาต่อเทคนิคที่สองกันครับ


ใช้ Facebook Page เพื่อดึงลูกค้าไปที่เว็บไซต์ | Noonnum.com
เชื่อมเฟสบุ๊คเพจกับเว็บไซต์ให้เป็นเนื้อเดียวกัน | Noonnum.com

02 ลุย Facebook กันต่อเลย

จากผลวิจัย 75% ของลูกค้ามักจะเข้าไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่พวกเขาอยากได้กันบน Facebook ก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ลูกค้ามักจะอยากจะมั่นใจว่าสิ่งที่เจาจะจ่ายเงินไปนั้นโอเคมั้ย ร้านนี้เชื่อถือได้มั้ย หรือมีสินค้าใหม่ หรือโปรโมชั่นอะไรที่เขาควรจะทราบก่อนมั้ย เพราะพวกเขาคาดหวังว่าหน้าร้านบนเฟจบุ๊คของสินค้านั้นๆจะเป็นข่าวสารที่อัพเดตที่สุดบ้างครั้ง มากกว่าข่าวสารที่โชว์บนเว็บไซต์เสียอีก สิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าอย่างเราควรทำคือ สร้าง Facebook เพจกันครับ และใส่ข้อมูลสิ่งที่ลูกค้าควรจะทราบไม่ว่าจะเป็น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เวลาให้บริการ สินค้าหรือบริการ ภาพหน้าร้าน ภาพสินค้า บรรยากาศ ตัวอย่างลูกค้าที่เคยมาซื้อ โปรโมชั่น ส่วนลดต่างๆตามแคมเปญที่เราออกแบบไว้ หรือ ใส่Blog ที่เราเพิ่งสร้างไว้บนเว็บไซต์และทำลิงค์เชื่อมมาก็ได้ครับ ใส่สิ่งที่คาดว่าลูกค้าอยากรู้ครับ ต่อมาก็ลองยิงโฆษณาบนเฟสบุ๊คกันดีกว่า ข้อดีของการยิง Ads บน facebook คือเราจะเจอลูกค้าที่แท้จริงที่มาจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ Facebook มีไว้ และ Facebook เป็น Platform ที่เราสามารถใส่รายละเอียดของลูกค้าเราได้มากที่สุดเจาะจงที่สุด มากกว่า Platform อื่นๆครับ



ทำการตลาดด้วย IG สำคัญไม่แพ้ Facebook | Noonnum.com|
มาอัพ Instagram กันเถอะ เพื่อค้นหาลูกค้าที่แท้จริง | Noonnum.com

03 สนุกกันต่อบน IG หรือ Instagram ครับ

ใครยังไม่ได้สร้าง Account บน IG รีบมีนะครับ เพราะปัจจุบัน 1/3 ของผู้ใช้งาน IG คือเจ้าของธุรกิจครับ และ IG นี้คาดว่าในอนาคตอันใกล้จะแซงหน้า Facebook ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้อีกนะครับ ตอนแรกทาง Admin คิดว่า IG นะเหรอเหมาะกับ ธุรกิจเสื้อผ้า Fast Fashion หรืออาหารเสริมหรือเปล่า? แต่ในความเป็นจริงแถบจะทุกธุรกิจก็สามารถนำ IG มาใช้ได้ครับ ว่าแล้วก็มาดูกันว่าต้องทำอย่างไร


- Instagram Bio หลังจากที่มี Account การใส่ข้อมูลตัวเอง รายละเอียดธุรกิจของเรา และใส่ลิงค์ไปที่ หน้าร้านออนไลน์ของเราได้เลย จำเป็นนะครับ เพราะลูกค้าที่ใช่ IG คาดหวังจะเห็นลิงค์ไปที่ Website ในส่วนนี้


- Instagram Stories เป็นที่ที่เราจะวาดลวดลายความสวยงานและความแตกต่างของธุรกิจเราให้ทุกคนได้เห็น ทั้งภาพและ Slide แต่สิ่งที่ดีที่สุดใน IG Story ก็คือ การใส่ CTA (Click to Action) เพื่อที่จะทำให้ลูกค้าที่ต้องการลิงค์กลับมาที่เว็บไซต์เราได้ โดย CTA ที่จะใส่ “Shop Here” เป็นต้นครับ


- นอกจากนั้นเราควรใส่ Instagram Feed บนเว็บไซต์ของเราๆด้วย ครับ เพราะจะทำให้คนที่ แค่มาเยี่ยมชมเปลี่ยนเป็นลูกค้า ถ้าเขาเกิดความสนใจใน Instagram Post ของเราภาพพวกนี้จะเรียกลูกค้ามาหาเราได้ครับ




04 SEO สำคัญมากมาย (ตัวนี้มาทุกบทความเลย)

ต้องเข้าใจว่า ลูกค้าที่ต้องการสินค้า หรือบริการของเราจริงๆ จะมาจาก การที่ลูกค้าค้นหาผ่าน Search Engine โดยส่วนใหญ่ และ เสริช์เอ็นจิ้นที่แข็งแกร่งที่สุดคงหนีไม่พ้น Google ครับ เพื่อนๆสามารถไปอ่านวิธีการที่จะทำเว็บไซต์ให้ Google รัก โดยตามไปอ่านในบทความที่ Noonnum เคยลงไว้ ตอน SEO2019 ปรับแต่งเว็บรู้ใจกูเกิล


ปัจจุบันมีคำพูดที่ว่า “เราทำเว็บไซต์ไม่ได้ทำให้ลูกค้าเห็น แต่ทำให้อัลกอริทึ่มกูเกิลเห็นและชอบก็พอ หลังจากนั้น ลูกค้าก็จะมาชอบคุณเอง” จากคำพูดดังกล่าว สามารถพูดได้อีกอย่างว่า ร้านค้าที่ติดอันดับหนึ่งบน Google Search คุณภาพดีที่สุด ถ้าเปรียบเป็นร้านไอติม ก็อร่อยที่สุด อย่าถามนะครับ ว่ารสชาติเป็นยังไง ไม่รู้ครับ แต่ติดอันดับหนึ่ง กูเกิล ก็คงอร่อยหรือบริการดีที่สุดครับ

เรื่องนี้แปลกแต่จริงๆครับ ดังนั้นเรายังคงต้องทำเว็บไซต์ โดยเน้นที่การทำ SEO Optimizing ให้มากๆและพยายามให้มากๆครับโดยการทำบ่อยๆ อัพเดตตลอด ส่วนใครติดปัญหาตรงนี้ ไม่มีเวลา เอาเวลาไปโฟกัสที่ตัวธุรกิจ สามารถติดต่อ Noonnum ให้พวกเรา ช่วยออกแบบเว็บไซต์ และทำการตลาดออนไลน์ให้ครับ เราพร้อมจะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุกท่านสุดความสามารถของเราครับ บทความว่าในครั้งนี้ เอาเท่านี้กันก่อนและครั้งหน้าจะกลับมาต่อกันครับ ใครมีคำถามสามารถคอมเมนท์กันได้เลยนะครับ

426 views0 comments
bottom of page